iTAX pedia

ธุรกรรมลักษณะเฉพาะ

โดย ผศ. ดร.ยุทธนา ศรีสวัสดิ์ อาจารย์ประจำวิชากฎหมายภาษีอากร

ธุรกรรมลักษณะเฉพาะ (หรือที่สื่อเรียกกันว่า กฎหมายอีเพย์เมนต์ (e-payment)) เป็นธุรกรรมที่สถาบันการเงิน (เช่น ธนาคาร) รวมถึงผู้ให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (เช่น mPAY, TrueMoney) มีหน้าที่ต้องรายงานให้ กรมสรรพากร ทราบเมื่อตรวจพบบุคคลที่ระหว่างปีมีเงินเข้าตั้งแต่ 3,000 ครั้ง หรือมีเงินเข้าตั้งแต่ 400 ครั้งและเป็นเงินจำนวนตั้งแต่ ฿2,000,0001 ทั้งนี้บุคคลที่มีธุรกรรมลักษณะเฉพาะอาจเป็น บุคคลธรรมดา หรือ นิติบุคคล ก็ได้ โดยเริ่มมีผลใช้บังคับตั้งแต่ปี 25622

ธุรกรรมที่ต้องรายงานกรมสรรพากร

‘ธุรกรรมลักษณะเฉพาะ’ ที่สถาบันการเงินแต่ละแห่งจะต้องรายงานกรมสรรพากร ได้แก่

หน่วยงานที่มีหน้าที่รายงาน

หน่วยงานต่อไปนี้ที่มีข้อมูลของบุคคลที่มีธุรกรรมลักษณะเฉพาะอยู่ในความครอบครองจะมีหน้าที่ต้องรายงานให้กรมสรรพากรทราบด้วย

การรายงาน

สถาบันการเงินและผู้ให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์มีหน้าที่ต้องรวบรวมข้อมูลของบุคคลที่มีธุรกรรมลักษณะเฉพาะตลอดปีเพื่อแจ้งให้กรมสรรพากรทราบภายในวันที่ 31 มีนาคม ของทุกปี โดยเริ่มเก็บข้อมูลของบุคคลที่มีธุรกรรมลักษณะเฉพาะครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 24 ธ.ค. 25623 และจะเริ่มรายงานครั้งแรกภายใน 31 มี.ค. 25634 โดยข้อมูลเหล่านี้จะถูกเก็บไว้ไม่เกิน 10 ปีนับแต่วันที่ได้รับข้อมูล

วิธีนับจำนวนครั้ง

ให้นับจำนวนครั้งและจำนวนเงินทุกครั้งที่ฝากหรือโอนเข้าบัญชีธนาคารของบุคคลนั้น โดยไม่สนใจว่าธนาคาร (หรือสถาบันการเงิน) จะกำหนดวิธีนำเงินเข้าเข้าบัญชีอย่างไร5 เช่น ถ้าธนาคารรอรวบยอด 100 รายการ รายการละ 10 บาท เพื่อโอนเข้าบัญชีธนาคารเป็นรายการเดียวจำนวน 1,000 บาทเพียงก้อนเดียวเมื่อสิ้นวัน ก็ให้นับว่ามีจำนวน 100 ครั้ง ครั้งละ 10 บาท เป็นต้น

หากเป็นกรณีโอนด้วยเครื่องรับรูดบัตร, QR Code หรือโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์โดยยังไม่เข้าบัญชีธนาคารของบุคคลนั้นทันที ให้นับจำนวนครั้งและจำนวนเงินทุกครั้งที่ได้ทำผ่านวิธีการเหล่านั้น โดยไม่สนใจว่าธนาคาร (หรือสถาบันการเงิน) จะกำหนดวิธีนำเงินเข้าเข้าบัญชีอย่างไร6 เช่น ถ้าธนาคารรอรวบยอดรูดผ่านเครื่องรับรูดบัตร 100 รายการ รายการละ 1,000 บาท เพื่อโอนเข้าบัญชีธนาคารเป็นรายการเดียวจำนวน 100,000 บาทเพียงก้อนเดียวเมื่อสิ้นวัน ก็ให้นับว่ามีจำนวน 100 ครั้ง ครั้งละ 1,000 บาท เป็นต้น

ข้อมูลที่กรมสรรพากรจะได้รับ

กรมสรรพากรจะได้รับข้อมูลต่อไปนี้7

ลักษณะการนำข้อมูลไปใช้

ใช้ประมวลผลร่วมกับข้อมูลอื่นในการวิเคราะห์ผ่านระบบคอมพิวเตอร์เพื่อจัดกลุ่มผู้เสียภาษีในการดูแลและให้บริการที่เหมาะสมต่อไป และหากข้อมูลถูกจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยง กรมสรรพากรจึงจะนำไปพิจารณาในเชิงลึกต่อไป ดังนั้น แม้จะเข้าเกณฑ์ธุรกรรมลักษณะเฉพาะ กรมสรรพากรจะไม่เรียกตรวจทุกราย เพราะกรมสรรพากรมีการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อจัดกลุ่มผู้เสียภาษีอีกครั้งหนึ่ง

ผู้เสียภาษีที่ประกอบธุรกิจจึงควรเตรียมความพร้อมด้วยการจัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายอย่างถูกต้อง เก็บเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจและยื่นแบบแสดงรายการภาษีให้ครบถ้วนถูกต้อง และตรงเวลา

ส่วนผู้เสียภาษีไม่ได้ประกอบธุรกิจแต่ถูกรายงานว่ามีธุรกรรมลักษณะเฉพาะ กรมสรรพากรจะมีมาตรการในการดูแลที่เหมาะสมต่อไป

การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลธุรกรรมลักษณะเฉพาะ

กรมสรรพากรจะเก็บรักษาข้อมูลเป็นความลับโดยเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าดูข้อมูลได้เป็นการทั่วไป และมีบทลงโทษเจ้าหน้าที่ในกรณีนำข้อมูลไปเปิดเผย

เรื่องที่มักเข้าใจผิดบ่อย

อยากจัดการภาษีให้ถูกต้องและไม่มีความเสี่ยง

ให้ iTAX sme ช่วยดูแลการวางแผนภาษีระดับมืออาชีพ

ค่าบริการ โทร 062-486-9787


อ้างอิง

  1. ^

    มาตรา 3 สัตตรส ประมวลรัษฎากร

  2. ^

    มาตรา 2 พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับท่ี 48) พ.ศ. 2562

  3. ^

    ข้อ 5 กฎกระทรวง ฉบับที่ 355 (พ.ศ. 2562)

  4. ^

    มาตรา 5 พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับท่ี 48) พ.ศ. 2562)

  5. ^

    ข้อ 4 (1) กฎกระทรวง ฉบับที่ 355 (พ.ศ. 2562)

  6. ^

    ข้อ 4 (2) กฎกระทรวง ฉบับที่ 355 (พ.ศ. 2562)

  7. ^

    ข้อ 2 กฎกระทรวง ฉบับที่ 355 (พ.ศ. 2562)