กระทรวงการคลังเตรียมเปิดให้ ลงทะเบียนบัตรคนจน 2565 รอบใหม่ สมัครบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สำหรับคนเก่าและคนใหม่ ต้องลงทะเบียนใหม่ เริ่มเปิดให้ลงทะเบียน 5 กันยายน – 19 ตุลาคม 2565
ช่วงเวลาสำหรับ ลงทะเบียนบัตรคนจน 2565 รอบใหม่
- เริ่มตั้งแต่ 5 กันยายน – 19 ตุลาคม 2565
ช่องทางการ ลงทะเบียนบัตรคนจน 2565 รอบใหม่
- ลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์กระทรวงการคลัง https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ http://welfare.mof.go.th
- ลงทะเบียน ณ หน่วยงานรับลงทะเบียนในพื้นที่ทั่วประเทศ ได้แก่
- สำนักงานคลังจังหวัด 76 จังหวัด
- ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ
- สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร 50 เขต
- สำนักงานเมืองพัทยา
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทุกสาขา
- ธนาคารออมสิน ทุกสาขา
- ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขา
ขั้นตอนการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
- ไปที่เว็บไซต์ของกระทรวงการคลัง หรือ ธนาคารที่สะดวก ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย และ ธ.ก.ส.
- แสดงบัตรประชาชน
- กรอกแบบฟอร์มแจ้งข้อมูลส่วนตัว รายได้ ทรัพย์สิน และหนี้สินของตน
- เก็บหลักฐานไว้เพื่อยืนยันการลงทะเบียน
ประกาศผลการตรวจสอบคุณสมบัติผู้มีสิทธิลงทะเบียนบัตรคนจน
- กระทรวงการคลังจะประกาศผลการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนบัตรคนจน รอบใหม่ 2565 ภายในเดือนมกราคม 2566 ผ่านทางเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ http://welfare.mof.go.th
สิทธิประโยชน์ของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) เป็นมาตรการช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยเพื่อลดภาระค่าครองชีพ เช่น
- ค่าซื้อสินค้า 200-300 บาท
- ค่าเดินทางรถโดยสารสาธารณะ 500 บาท
- ส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 45 บาท (ต่อรอบ 3 เดือน) กรณีเป็นกลุ่มเปราะบาง จะได้ส่วนลด 100 บาท (ต่อรอบ 3 เดือน)
- เงินช่วยค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือน (ตามที่จ่ายจริง)
- เงินช่วยค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือน (ตามที่จ่ายจริง)
- เงินพิเศษผู้พิการ 200 บาท
- ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เป็นพ่อค้า แม่ค้า หาบเร่แผงลอย ร้านค้าขนาดเล็กต่างๆ จะได้ส่วนลดก๊าซหุงต้มพีที (ปตท.) 100 บาท ที่ร้านจำหน่ายที่ร่วมโครงการ
- เงินพิเศษผู้สูงอายุ 50-100 บาท (ขึ้นอยู่กับเกณฑ์รายได้)
คุณสมบัติของผู้มีสิทธิลงทะเบียนสมัครบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
- เป็นผู้มีสัญชาติไทยอายุ 18 ปีขึ้นไป
- ไม่เป็นบุคคล ดังต่อไปนี้
- ภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช
- ผู้ต้องขัง ผู้ถูกกักกัน ผู้ต้องกักขัง
- บุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของหน่วยงานของรัฐ
- ข้าราชการ พนักงานราชการ พนักงาน ลูกจ้าง เจ้าหน้าที่ หรือผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ
- ผู้รับบำเหน็จรายเดือน ผู้รับบำนาญปกติ หรือเบี้ยหวัดจากส่วนราชการ
- ข้าราชการการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา
- ว่างงานหรือมีรายได้ส่วนตัวไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ในช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง และหากมีครอบครัว รายได้เฉลี่ยของครอบครัวของผู้ลงทะเบียนไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี ในช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง (การคำนวณรายได้เฉลี่ยของครอบครัวของผู้ลงทะเบียนคำนวณได้จากการรวมรายได้ของผู้ลงทะเบียน และสมาชิกในครอบครัวของผู้ลงทะเบียน หารด้วยจำนวนบุคคลทั้งหมดในครอบครัว)
- ทรัพย์สินทางการเงิน ได้แก่ เงินฝาก สลาก พันธบัตร และตราสารหนี้ภาครัฐ ของผู้ลงทะเบียนต้องมีมูลค่าไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง และหากมีครอบครัว ทรัพย์สินทางการเงินเฉลี่ยของครอบครัวของผู้ลงทะเบียนมีมูลค่าไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง (การคำนวณทรัพย์สินทางการเงินเฉลี่ยของครอบครัวของผู้ลงทะเบียนคำนวณได้จากการรวมมูลค่าทรัพย์สินทางการเงินของผู้ลงทะเบียน และสมาชิกในครอบครัวของผู้ลงทะเบียน หารด้วยจำนวนบุคคลทั้งหมดในครอบครัว)
- ไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ หรือถ้ามีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง จะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้
- กรณีผู้ลงทะเบียนไม่มีครอบครัว
- ที่อยู่อาศัยที่เป็นที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง (บ้านพร้อมที่ดิน)
- กรณีอยู่อาศัยอย่างเดียว บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ห้องแถว และตึกแถว ต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 25 ตารางวา และ/หรือ ห้องชุดต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 35 ตารางเมตร
- กรณีเป็นที่อยู่อาศัยและใช้ประโยชน์จากที่ดินเพื่อการเกษตร ต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 10 ไร่ หรือในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตรจะต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 1 ไร่
- ที่ดินแยกจากที่อยู่อาศัย
- ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการเกษตรต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 10 ไร่หรือ
- ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตรต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 1 ไร่
- ที่อยู่อาศัยที่เป็นที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง (บ้านพร้อมที่ดิน)
- กรณีผู้ลงทะเบียนมีครอบครัว
- ที่อยู่อาศัยที่เป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (บ้านพร้อมที่ดิน)
- กรณีอยู่อาศัยอย่างเดียว
- ผู้ลงทะเบียนและคู่สมรสเป็นเจ้าของที่ดินที่มีลักษณะเป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ห้องแถว และตึกแถวแยกจากกัน ไม่ว่าจะมีบุคคลอื่นเป็นเจ้าของรวมด้วยหรือไม่ก็ตาม ส่วนที่เป็นกรรมสิทธิ์ในที่ดินของลงทะเบียนและคู่สมรสแต่ละคนต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 25 ตารางวา
- ผู้ลงทะเบียนและคู่สมรสเป็นเจ้าของที่ดินที่มีลักษณะเป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ห้องแถว และตึกแถวร่วมกัน ไม่ว่าจะมีบุคคลอื่นเป็นเจ้าของรวมด้วยหรือไม่ก็ตาม ส่วนที่เป็นกรรมสิทธิ์ในที่ดินของผู้ลงทะเบียนและคู่สมรสรวมกันต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 25 ตารางวา
- ผู้ลงทะเบียนและคู่สมรสเป็นเจ้าของห้องชุดแยกจากกัน ไม่ว่าจะมีบุคคลอื่นเป็นเจ้าของรวมด้วยหรือไม่ก็ตาม ส่วนที่เป็นกรรมสิทธิ์ในห้องชุดของผู้ลงทะเบียนและคู่สมรสแต่ละคนต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 35 ตารางเมตร
- ผู้ลงทะเบียนและคู่สมรสเป็นเจ้าของห้องชุดร่วมกัน ไม่ว่าจะมีบุคคลอื่นเป็นเจ้าของรวมด้วยหรือไม่ก็ตาม ส่วนที่เป็นกรรมสิทธิ์ในห้องชุดของผู้ลงทะเบียนและคู่สมรสรวมกันต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 35 ตารางเมตร
- กรณีเป็นที่อยู่อาศัยและใช้ประโยชน์จากที่ดินเพื่อการเกษตร ต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 20 ไร่ หรือในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตรจะต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 2 ไร่
- กรณีอยู่อาศัยอย่างเดียว
- ที่ดินแยกจากที่อยู่อาศัย
- ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการเกษตรต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 20 ไร่ หรือ
- ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตรต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 2 ไร่
- ที่อยู่อาศัยที่เป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (บ้านพร้อมที่ดิน)
- กรณีผู้ลงทะเบียนไม่มีครอบครัว
- ผู้ลงทะเบียนจะต้องไม่มีบัตรเครดิต ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง
- ผู้ลงทะเบียนจะต้องไม่มีวงเงินกู้ หรือมีวงเงินกู้ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง แต่ไม่เกินหลักเกณฑ์ ได้แก่ วงเงินกู้สำหรับที่อยู่อาศัยรวมไม่เกิน 1.5 ล้านบาท และ/หรือ วงเงินกู้สำหรับยานพาหนะรวมไม่เกิน 1 ล้านบาท
กรณีผ่านคุณสมบัติ
- ผู้ที่ผ่านคุณสมบัติจะต้องยืนยันตัวตนที่ ธ.ก.ส. ธนาคารออมสิน หรือธนาคารกรุงไทย โดยสามารถยืนยันตัวตนด้วยบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อเข้าร่วมโครงการฯ ได้ตั้งแต่ 9 มกราคม 2566 เป็นต้นไป
กรณีไม่ผ่านคุณสมบัติ
- ผู้ลงทะเบียนที่ไม่ผ่านคุณสมบัติสามารถดำเนินการยื่นเรื่องอุทธรณ์ให้พิจารณาใหม่ ผ่านช่องทางเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือช่องทางอื่นที่กระทรวงการคลังกำหนด เริ่มตั้งแต่ 9 – 31 มกราคม 2566