ศบค. เริ่ม มาตรการผ่อนคลาย ให้พื้นที่แดงเข้ม นั่งร้านอาหาร ได้ถึง 3 ทุ่ม ปรับพื้นที่สีแดงเข้มใหม่ (พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด) เหลือ 4 จังหวัด กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ ตัด “เชียงใหม่ และชลบุรี” ออกหลังสถานการณ์ดีขึ้น มีผลวันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคม 2564
‘หมอพร้อม’ ลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด-19 ผ่านไลน์
ฉีดวัคซีนโควิด ไม่ต้องลงทะเบียน สธ.เปิดให้ประชาชน Walk in แล้ว
ลงทะเบียน สินเชื่อโควิด วงเงินกู้ 10,000 บาท ไม่ต้องมีหลักประกัน
มาตรการผ่อนคลาย นั่งร้านอาหาร
ที่ประชุม ศบค. ได้ประชุมหารือหลักการและหลักเกณฑ์การผ่อนคลายสำหรับร้านอาหาร เพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ และสังคม ตามระดับของพื้นที่สถานการณ์ย่อยในพื้นที่ทั่วประเทศ
มาตรการผ่อนคลาย นั่งร้านอาหาร ในแต่ละพื้นที่ควบคุม แบ่งระดับเป็นดังนี้
- พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 4 จังหวัด : นั่งกินในร้านอาหารได้ไม่เกิน 25% ไม่เกินเวลา 21.00 น. (สามทุ่ม) และซื้อกลับบ้านได้ ไม่เกิน 23.00 น. (ห้าทุ่ม)
- พื้นที่ควบคุมสูงสุด 17 จังหวัด : นั่งกินในร้านอาหารได้ ไม่เกิน 23.00 น. (ห้าทุ่ม)
- พื้นที่ควบคุม 56 จังหวัด : นั่งกินในร้านอาหารได้ตามปกติ
ทั้งนี้ ทุกพื้นที่ควบคุมทั้ง 3 ระดับ ยังคงห้ามเรื่องการดื่มสุราในร้าน โดยให้เหตุผลว่าการดื่มสุราหรือแอลกอฮอล์ เป็นแหล่งของการทำให้เกิดการติดต่อของโรคโควิด-19 ได้
ศบค. เปิดเผยว่าการบังคับใช้มาตรการผ่อนคลายใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้ในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งจะพยายามทำให้เร็วที่สุด ซึ่งทางนายกรัฐมนตรีได้สั่งการมาให้ทำให้เร็วที่สุด โดยจะมีผลใช้บังคับวันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคม 2564
การปรับระดับพื้นที่ควบคุมใหม่ทั่วประเทศ
ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศปก.ศบค. ได้มีมติเห็นชอบถึงการปรับระดับพื้นที่ควบคุมทั่วประเทศ โดยตัด “เชียงใหม่ และชลบุรี” ออกจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดออกไป หลังสถานการณ์เริ่มดีขึ้น และได้มีการปรับเปลี่ยนใหม่ ดังนี้
พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 4 จังหวัด
“พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด” ปรับลดลงจาก 6 จังหวัด เหลือ 4 จังหวัด (ตัด เชียงใหม่ และชลบุรี ออก)
- กรุงเทพมหานคร
- นนทบุรี
- ปทุมธานี
- สมุทรปราการ
จังหวัดเชียงใหม่จะถูกจัดระดับใหม่เป็น “พื้นที่ควบคุม” ส่วนจังหวัดชลบุรีจะถูกจัดระดับเป็น “พื้นที่ควบคุมสูงสุด”
มาตรการควบคุมร้านอาหารในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด
ให้บริโภคอาหารและเครื่องดื่มในร้านได้ไม่เกินเวลา 21.00 น. โดยจำกัดจำนวนผู้นั่งบริโภคในร้านได้ไม่เกินร้อยละ 25 ของจำนวนที่นั่งปกติ ห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน และให้จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มในลักษณะของการนำไปบริโภคที่อื่นได้จนถึงเวลา 23.00 น. ทั้งนี้ ให้ผู้ประกอบการจัดให้มีมาตรการคัดกรองผู้เกี่ยวข้อง การจัดระเบียบผู้เข้าใช้บริการ และการเว้นระยะห่างตามคำแนะนำและมาตรการที่ทางราชการกำหนด
พื้นที่ควบคุมสูงสุด 17 จังหวัด
“พื้นที่ควบคุมสูงสุด” ปรับเพิ่มขึ้นจาก 16 จังหวัด เป็น 17 จังหวัด (เพิ่ม ชลบุรี ซึ่งมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด)
- กาญจนบุรี
- ชลบุรี (ใหม่)
- ฉะเชิงเทรา
- ตาก
- นครปฐม
- นครศรีธรรมราช
- นราธิวาส
- ประจวบคีรีขันธ์
- พระนครศรีอยุธยา
- เพชรบุรี
- ยะลา
- ระนอง
- ระยอง
- ราชบุรี
- สมุทสาคร
- สงขลา
- สุราษฎร์ธานี
มาตรการควบคุมร้านอาหารในพื้นที่ควบคุมสูงสุด
ให้บริโภคอาหารและเครื่องดื่มในร้านได้ไม่เกินเวลา 23.00 น. โดยห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน ทั้งนี้ ให้ผู้ประกอบการจัดให้มีมาตรการคัดกรองผู้เกี่ยวข้อง การจัดระเบียบผู้เข้าใช้บริการ และการเว้นระยะห่างตามคำแนะนำและมาตรการที่ทางราชการกำหนด
พื้นที่ควบคุม 56 จังหวัด
“พื้นที่ควบคุม” ปรับเพิ่มขึ้นจาก 55 จังหวัด เป็น 56 จังหวัด (เพิ่ม เชียงใหม่ ซึ่งมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด)
- กระบี่
- กาฬสินธุ์
- กำแพงเพชร
- ขอนแก่น
- จันทบุรี
- ชัยภูมิ
- ชัยนาท
- ชุมพร
- เชียงราย
- เชียงใหม่ (ใหม่)
- ตรัง
- ตราด
- นครนายก
- นครพนม
- นครราชสีมา
- นครสวรรค์
- น่าน
- หนองคาย
- บึงกาฬ
- บุรีรัมย์
- ปราจีนบุรี
- ปัตตานี
- พังงา
- พัทลุง
- พะเยา
- พิจิตร
- พิษณุโลก
- เพชรบูรณ์
- แพร่
- ภูเก็ต
- มหาสารคาม
- มุกดาหาร
- แม่ฮ่องสอน
- ยโสธร
- ร้อยเอ็ด
- ลพบุรี
- ลำปาง
- ลำพูน
- เลย
- ศรีสะเกษ
- สกลนคร
- สตูล
- สระแก้ว
- สระบุรี
- สมุทรสงคราม
- สิงห์บุรี
- สุโขทัย
- สุพรรณบุรี
- สุรินทร์
- หนองบัวลำภู
- อ่างทอง
- อุดรธานี
- อุตรดิตถ์
- อุทัยธานี
- อุบลราชธานี
- อำนาจเจริญ
มาตรการควบคุมร้านอาหารในพื้นที่ควบคุม
ให้บริโภคอาหารและเครื่องดื่มในร้านได้ภายในกำหนดเวลาปกติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน
พื้นที่เฝ้าระวังสูง 0 จังหวัด
ปัจจุบันยังไม่มีจังหวัดใดอยู่ในระดับพื้นที่เฝ้าระวังสูง
พื้นที่เฝ้าระวัง 0 จังหวัด
ปัจจุบันยังไม่มีจังหวัดใดอยู่ในระดับพื้นที่เฝ้าระวัง