รัฐบาลจัดโครงการ “คนละครึ่ง” ให้ประชาชนอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ได้รับเงินคนละ 3,000 บาทเพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่าย 50% ให้ประชาชน วงเงินไว้ 45,000 ล้านบาท ลงทะเบียนผ่าน www.คนละครึ่ง.com คาดว่าจะส่งเสริมให้เกิดการใช้จ่ายภายในประเทศและมีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 90,000 ล้านบาท ซึ่งมีระยะเวลาดำเนินการ 23 ต.ค. – 31 ธ.ค. 63 เป็นเวลา 3 เดือน โดยเปิดลงทะเบียนครั้งแรกไปแล้วเมื่อ 16 ตุลาคม 2563 และเปิดลงทะเบียนรอบสอง 11 พฤศจิกายน 2563
เงื่อนไขการใช้สิทธิคนละครึ่ง
- รัฐบาลออกค่าใช้จ่ายให้ 50% และผู้ได้รับสิทธิ์ออกเอง 50% เบื้องต้นจำกัดให้ใช้จ่ายได้ไม่เกินวันละ 150 บาท วงเงินสนับสนุนไว้สูงสุดตลอดโครงการไม่เกินคนละ 3,000 บาท
- ผู้ได้รับสิทธิ์จะได้รับเงินผ่าน แอป เป๋าตัง ของธนาคารกรุงไทย ก็ต่อเมื่อเติมเงินเข้าแอปเป๋าตังเท่านั้น และเมื่อเติมเงินเข้าไปแล้ว ไม่สามารถถอนคืนเป็นเงินสดได้
- เงินที่รัฐบาลโอนเข้าแอปเป๋าตังจะต้องใช้ให้หมดแบบวันต่อวันเท่านั้น ไม่สามารถเก็บไว้ใช้วันอื่นได้ ในกรณีใช้ไม่หมด
- ร้านค้าที่ผู้ได้รับสิทธิสามารถนำเงินจากแอปเป๋าตังไปใช้ได้ ต้องเป็นร้านค้าที่ขึ้นทะเบียน ‘ถุงเงิน’ กับธนาคารกรุงไทยแล้วเท่านั้น
ดังนั้น รัฐบาลจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้ประชาชนผ่านแอปเท่าจำนวนเงินที่ประชาชนเติมเข้าแอปเป๋าตัง หากต้องการเงินสนับสนุนจากรัฐบาล 3,000 บาท ผู้ได้รับสิทธิ์จะต้องเติมเงินเข้าแอปเป๋าตังเพื่อใช้จ่ายเป็นเงินจำนวน 3,000 บาทด้วยเช่นกัน
ใครมีสิทธิได้รับแจกเงิน 3,000 บาท?
ผู้มีสิทธิขอรับเงินจากโครงการคนละครึ่งได้จะต้องมีคุณสมบัติครบ 3 ข้อ ดังนี้
- ต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย
- อายุ 18 ปีบริบูรณ์
- ลงทะเบียนรับสิทธิ์ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com แล้ว
วิธีสมัคร ‘คนละครึ่ง’
- เข้าเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com (เปิดให้ลงทะเบียนรอบสอง 11 พฤศจิกายน 2563 เวลา 6.00 – 23.00 น.)
- รอรับผลการพิจารณาผ่านทาง SMS ของโครงการว่าได้รับอนุมัติหรือไม่
- หากได้รับอนุมัติแล้ว ดาวโหลดแอปเป๋าตังเพื่อรับเงิน 3,000 บาท จากโครงการคนละครึ่ง
เมื่อได้อนุมัติทาง SMS แล้ว สามารถนำไปใช้จ่ายได้ตั้งแต่ 23 ต.ค. – 31 ธ.ค. 63 เป็นเวลา 3 เดือน ทั้งนี้ หากได้รับอนุมัติแล้ว แต่ไม่ได้ใช้สิทธิภายใน 14 วัน ระบบจะตัดสิทธิ์แล้วนำไปให้ผู้สมัครใหม่จนกว่าจะครบ 10 ล้านสิทธิ์ ทั้งนี้ ผู้ที่ถูกตัดสิทธิ์ยังสามารถลงทะเบียนใหม่ได้อยู่
ร้านค้าที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง
ร้านค้าที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งได้จะเป็นร้านค้ารายย่อยทั่วไป รวมถึงร้านหาบเร่ แผงลอย และร้านอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้า (ยกเว้นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และบุหรี่) โดยร้านค้าที่จะเข้าร่วมโครงการต้องขึ้นทะเบียน “ถุงเงิน” ผ่านธนาคารกรุงไทยก่อน ติดต่อได้ที่สาขาของธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศ
ถ้าใช้สิทธิ ‘คนละครึ่ง’ แล้ว จะเสียสิทธิลดหย่อน ‘ช้อปดีมีคืน’
ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ที่ได้รับสิทธิและใช้สิทธิช้อปดีมีคืนแล้ว จะไม่มีสิทธิได้รับค่าลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในมาตรการช้อปดีมีคืนได้อีก