เว็บไซต์สถานทูตสหรัฐฯ และสถานกงสุลในประเทศไทย ได้เผยแพร่ เอกสารข้อเท็จจริง: สหรัฐฯ สนับสนุนไทยในการต่อสู้กับโรคโควิด-19 โดยมีรายละเอียดความช่วยเหลืออย่างน้อย 7 ด้าน ได้แก่ 1) การตรวจหาการติดเชื้อ 2) การเฝ้าระวังชายแดน 3) การรักษา 4) การบริจาคชุด PPE และอุปกรณ์การแพทย์ 5) โครงการให้ความรู้กับผู้อพยพ 6) การช่วยเหลือผู้กักตัว และ 7) การวิจัย
รมช.สธ. สั่งห้ามทุก รพ. เลื่อนฉีควัคซีนโควิด 7 มิ.ย.
ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เตรียมนำเข้าวัคซีนโควิด “ซิโนฟาร์ม”
วิธียื่นขอรับเงินช่วยเหลือ ‘แพ้วัคซีนโควิด’ จาก สปสช.
เอกสารข้อเท็จจริง: สหรัฐฯ สนับสนุนไทยในการต่อสู้กับโรคโควิด-19
ข้อมูลเบื้องต้น
- รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศกรอบความร่วมมือเพื่อแบ่งปันวัคซีนจำนวน 80 ล้านโดสทั่วโลกภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ ในแผนการส่งมอบวัคซีน 25 ล้านโดสแรก จะมีวัคซีนจำนวน 7 ล้านโดสที่มอบให้กับประเทศต่างๆ ในเอเชีย รวมถึงประเทศไทย โดยเพิ่มเติมจากความช่วยเหลือมูลค่า 4,000 ล้านเหรียญที่สหรัฐฯ ได้ประกาศว่าจะมอบให้กับโครงการ COVAX
- รัฐบาลสหรัฐฯ มอบความช่วยเหลือให้ไทยเพื่อรับมือกับโรคโควิด-19 รวมมูลค่า 30 ล้านเหรียญ โดยในจำนวนนี้เป็นการบริจาคเครื่องช่วยหายใจ หน้ากากอนามัย แว่นตานิรภัย และอุปกรณ์ป้องกันรวมมูลค่า 17.5 ล้านเหรียญให้กับแพทย์และพยาบาลไทย รวมทั้งความช่วยเหลือแก่ผู้ลี้ภัยในค่ายตามแนวชายแดน
- ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติ สหรัฐฯ (U.S. CDC) ได้มอบความช่วยเหลือเพิ่มเติมมูลค่า 13 ล้านเหรียญ โดยทำงานเคียงบ่าเคียงไหลกับกระทรวงสาธารณสุขของไทย
ส่งเสริมการตอบโต้โรคโควิด-19 ของไทยในทุกระดับ
- การตรวจหาการติดเชื้อ: องค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (USAID) ตลอดจน U.S. CDC และกองทัพสหรัฐฯ ได้ช่วยเหลือรัฐบาลไทยในการเสริมสร้างศักยภาพการตรวจวินิจฉัย โดย USAID ช่วยไทยยืนยันผู้ป่วยโควิด-19 รายแรกที่เดินทางมาจากต่างประเทศเมื่อเดือนมกราคม 2563
- การเฝ้าระวังชายแดน: U.S. CDC พัฒนาศักยภาพโครงการเฝ้าระวังในค่ายอพยพ 9 แห่งตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา โดยได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในตัวอย่างส่งตรวจไปแล้วกว่า 1,500 ตัวอย่าง และตรวจพบการระบาด 3 แห่ง ซึ่งช่วยให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในค่ายตระหนักถึงสถานการณ์การระบาดได้โดยเร็วและป้องกันการแพร่กระจายของโรคในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงสูง
- การรักษา: USAID สนับสนุนการให้คำปรึกษาทางออนไลน์และมอบเครื่องวัดออกซิเจนในเลือดเพื่อช่วยให้กลุ่มประชากรหลักที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองและเข้าถึงการรักษาได้ง่ายขึ้น โดยรวมไปถึงกลุ่มผู้อพยพ การพัฒนาวัคซีนและยา: นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหารของสหรัฐฯ กำลังร่วมมือกับภาคีชาวไทยศึกษาวิจัยวัคซีนในประเทศเพื่อเร่งรัดความพยายามในการปกป้องคนไทยในอนาคต
- การบริจาคชุด PPE: รัฐบาลสหรัฐฯ ได้บริจาคเครื่องช่วยหายใจ หน้ากากช่วยหายใจ หน้ากากอนามัย แว่นตานิรภัย และอุปกรณ์ป้องกันรวมมูลค่า 17.5 ล้านเหรียญให้กับแพทย์และพยาบาลไทย รวมทั้งมอบความช่วยเหลือแก่ผู้ลี้ภัยในค่ายตามแนวชายแดน
- โครงการให้ความรู้กับผู้อพยพ: U.S. CDC และ USAID ดำเนินกิจกรรมกับชุมชนผู้อพยพ โดยให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการรักษาความสะอาดเพื่อยุติหรือลดการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 แก่ผู้อพยพและประชากรกลุ่มเปราะบางจำนวนกว่า 117,601 คน
- การช่วยเหลือผู้กักตัว: USAID ร่วมพัฒนาแอปพลิเคชัน “พ้นภัย” สำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่เพื่อช่วยให้ประชาชนที่ต้องกักตัวอยู่ใน 69 จาก 77 จังหวัดทั่วประเทศไทยได้รับการแจกจ่ายชุดยังชีพ 188,203 ชุด พร้อมทั้งน้ำดื่ม (มูลค่าเกือบ 4 ล้านเหรียญ) ได้โดยตรงและรวดเร็ว
- การวิจัย: ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติ สหรัฐฯ ในประเทศไทย ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขของไทยศึกษาวิจัยโครงการการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพื่อประเมินความรู้ ทัศนคติ และการปฏิบัติตนในการฉีดวัคซีนในกลุ่มประชากรหลัก