รองโฆษกอัยการชี้เเจงละเอียด โต้ปมจ้าง สวทช. ตรวจ GT200 อัยการ เผยคดีจบเเล้ว แจ้งผลกองทัพตั้งแต่ 8 กันยายน 2564 ไม่จำเป็นต้องผ่าพิสูจน์อีก หลังศาลปกครองสูงสุดสั่งจ่าย 600 กว่าล้าน
- สลากดิจิทัล ขึ้นรางวัล ผ่านแอป “เป๋าตัง” เสียค่าธรรมเนียมเพิ่ม 1%
- ลงทะเบียนวินเซฟ กดรับสิทธิ์ ช่วยค่าน้ำมันวันละ 50 บาท
อัยการ โต้ GT200 แจงละเอียด ไม่จำเป็นต้องตรวจแล้ว
6 มิถุนายน 2565 – หลังจากที่โฆษกกระทรวงกลาโหมออกมาชี้แจงว่า ทางสำนักงานอัยการสูงสุด มีความเห็นให้กองทัพบกดำเนินการตรวจเครื่อง GT200 ที่ไม่สามารถใช้งานได้ทุกเครื่อง จำนวนทั้งสิ้น 757 เครื่อง เพื่อเป็นหลักฐานต่อสู้คดีในศาลปกครองจนนำไปสู่การตั้งงบประมาณปี 2566 เพื่อดำเนินการจ้าง สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ช่วยผ่าพิสูจน์เป็นเงินจำนวน 7,570,000 บาทนั้น
เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 65 นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ในขณะพิจารณาคดีเมื่อปี พ.ศ. 2560 อัยการผู้ตรวจสำนวนได้มีหนังสือเเจ้งให้กองทัพบกดำเนินการส่งเครื่อง GT200 ไปตรวจพิสูจน์ทั้งหมดรวม 757 เครื่อง เพราะมีความจำเป็นทางคดี เเต่เมื่อคดีถึงที่สุดไปแล้ว และแจ้งผลกองทัพตั้งแต่ 8 กันยายน 2564 กองทัพฟ้องชนะคดีมา 600 กว่าล้านบาท จึงไม่มีความจำเป็นต้องไปตรวจสอบ GT200 เพิ่มเติมอีก
อัยการแจงไทม์ไลน์ปมจีที 200 ตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบัน
- 13 มกราคม 2560 – ได้รับหนังสือจากกองทัพบก ขอให้สำนักงานอัยการสูงสุดจัดอัยการยื่นฟ้องบริษัท เอวิเอ แซทคอม ผู้ถูกฟ้องที่ 1 กับพวก กรณีข้อพิพาทการจัดซื้อขายเครื่องตรวจวัตถุระเบิด GT200 รวม 12 สัญญา วงเงิน 683,900,000 บาท โดยอัยการสูงสุดได้มอบให้สำนักงานอัยการคดีปกครองเป็นผู้พิจารณาว่าต่างเเละได้มอบหมายให้สำนักงานอัยการคดีปกครอง 5 เป็นผู้รับผิดชอบสำนวน
- 24 มกราคม 2560 – เมื่อได้เรื่องเเล้วพนักงานอัยการผู้ตรวจสำนวนได้มีหนังสือเเจ้งให้กองทัพบกดำเนินการส่งเครื่อง GT200 ไปตรวจพิสูจน์ทั้งหมดรวม 757 เครื่อง เพื่อพิสูจน์ว่าไม่มีคุณสมบัติตามสัญญาจริง ซึ่งในประเด็นนี้ถือว่าเป็นข้อแพ้ชนะคดี แต่ในส่วนรายละเอียดทางกองทัพจะไปตรวจอย่างไร ราคาเท่าไหร่ ทางอัยการไม่ได้ก้าวล่วง เพราะเป็นเรื่องของกองทัพบกที่จะต้องดำเนินการ ส่วนกองทัพบกจะจ้างใครตรวจเป็นส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับอัยการ เนื่องจากเป็นเพียงการแจ้งให้ไปตรวจเพื่อนำผลตรวจพิสูจน์มา
- 27 เมษายน 2560 – อัยการสำนักงานคดีปกครอง 5 ได้ยื่นฟ้องจำเลย 4 ราย โดยอัยการได้ยื่นฟ้องทุนทรัพย์ทั้งหมด 687,691,975 บาท ได้แก่
- บริษัทเอวิเอ แซทคอม
- นายสุทธิวัฒน์ วัฒนกิจ ผู้บริหารบริษัท เอวิเอฯ
- ธนาคารกสิกรไทยในฐานะผู้ค้ำประกัน (วงเงิน 56 ล้านบาทเศษ)
- ธนาคารกรุงเทพ ในฐานะแบงค์การันตี (วงเงิน 6 ล้านบาทเศษ)
- 28 ธันวาคม 2560 – ศาลปกครองกลางไม่รับฟ้องคดีโดยให้เหตุผลเนื่องจากขาดอายุความ
- 1 มิถุนายน 2561 – ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งในคดีที่อัยการยื่นอุทธรณ์ว่าคดีไม่ขาดอายุความ พร้อมสั่งให้ศาลปกครองกลางรับคดีไว้พิจารณา
- 1 กันยายน 2564 – ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาว่า เครื่อง GT200 จำนวน 757 เครื่อง เป็นสินค้าไม่มีคุณภาพ ไม่มีคุณลักษณะเฉพาะตามเอกสารเเสดงคุณสมบัติของเครื่อง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาจึงพิพากษาดังนี้
- ให้บริษัทเอวิเอ แซทคอมฯ ชำระเงินให้กับกองทัพบก 683,441,561 บาท
- ให้ธนาคารกสิกรไทยในฐานะะผู้ค้ำประกันรับผิดชอบในวงเงิน 56,856,438 บาท
- ให้ธนาคารกรุงเทพในส่วนแบงค์การันตีรับผิดชอบวงเงิน 6,195,452 และ
- ยกฟ้องนายสุทธิวัฒน์ผู้บริหารเอวิเอ เนื่องจากยังฟังไม่ได้ความว่า ได้กระทำงานเกินขอบเขตอำนาจหน้าที่ของนิติบุคคล
- 8 กันยายน 2564 – สำนักงานอัยการสูงสุดได้แจ้งผลคดี ให้กองทัพบกทราบ
- 23 กันยายน 2564 – ผู้ถูกฟ้องทุกคนยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด
- 7 กุมภาพันธ์ 2565 – ผู้ถูกฟ้องที่ 1 (บริษัทเอวิเอ แซทคอมฯ) ยื่นคำร้องขอถอนอุทธรณ์
- 7 มีนาคม 2565 – ศาลปกครองสูงสุดอนุญาตให้ถอนอุทธรณ์คดี คดีจึงเป็นอันถึงที่สุด ที่ให้บริษัทเอวิเอ แซทคอมฯ ชำระเงินให้กับกองทัพบก 683,441,561 บาท ตามคำพิพากษาศาลปกครองกลาง
- 8 มีนาคม 2565 – อัยการคดีปกครองยื่นอุทธรณ์ โดยขอให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ที่ศาลยกฟ้องร่วมรับผิดกับผู้ถูกฟ้องที่ 1
นายประยุทธ กล่าวว่า ในส่วนที่อยู่ในศาลปกครองสูงสุดจึงมีเพียง 2 ประเด็น คือ ในส่วนของธนาคารกสิกรไทยเเละธนาคารกรุงเทพ เเละประเด็นที่อัยการขอให้นายสุทธิวัฒน์ ร่วมรับผิดกับบริษัทฯ
สรุปการตรวจพิสูจน์เครื่อง GT200 จำนวน 757 เครื่องจึงไม่มีความจำเป็น เนื่องจากคดีสิ้นกระเเสความเเล้ว เเละอัยการได้เเจ้งผลให้กองทัพบกตั้งเเต่วันที่ 8 กันยายน 2564 เเล้ว
