สำนักงาน ก.พ. ได้ออกประกาศสํานักงาน ก.พ. เรื่อง รับสมัครสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไปด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ประจําปี 2566 เมื่อวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2566 เพื่อเปิดรับสมัคร สอบ ก.พ. แบบ e-Exam ประจำปี 2566 ผ่านทางเว็บไซต์ https://job3.ocsc.go.th หัวข้อ “สมัครสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไปด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Exam) ประจําปี 2566 ตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม 2566 เวลา 08.30 น. ถึงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 (ไม่เว้นวันหยุดราชการ)
- รายชื่อผู้สอบผ่านการวัดความรู้ความสามารถทั่วไป สอบ ก.พ. ประจำปี 2565
- ปฏิทินการจ่าย เงินเดือนข้าราชการ ค่าจ้าง บำนาญ 2566
- เงินเดือนข้าราชการ (อัพเดตล่าสุด 2566)
ประกาศเปิดรับสมัคร สอบ ก.พ. วัดความรู้ความสามารถทั่วไปด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Exam) ประจำปี 2566
ด้วยสํานักงาน ก.พ. จะดําเนินการสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไปด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ประจําปี 2566 ฉะนั้น อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 53 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ประกอบกับหนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1004/ว 17 ลงวันที่ 11 ธันวาคม 2556 หนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1004/ว 3 ลงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2561 และหนังสือสํานักงาน ก.พ. ที่ นร 1004/ว 12 ลงวันที่ 2 กรกฎาคม 2562 จึงประกาศรับสมัครสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไป ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ดังรายละเอียดต่อไปนี้
1. ระดับวุฒิการศึกษาที่รับสมัครสอบ
รับสมัครสอบผู้ที่สําเร็จการศึกษาแล้ว หรือผู้ที่กําลังจะสําเร็จการศึกษาในปีการศึกษา 2566 ระดับปริญญาตรี หรือปริญญาโท หรือคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกันในทุกสาขาวิชา
2. คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัครสอบ
2.1 ต้องเป็นผู้ที่สําเร็จการศึกษาแล้ว หรือเป็นผู้ที่กําลังจะสําเร็จการศึกษาในปีการศึกษา 2566 ระดับปริญญาตรี หรือปริญญาโท หรือคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกันในทุกสาขาวิชา
2.2 ต้องเป็นผู้ที่ไม่เคยสอบผ่าน หรือไม่มีหนังสือรับรองผลการสอบผ่านการวัดความรู้ ความสามารถทั่วไประดับปริญญาตรี หรือปริญญาโท ของสํานักงาน ก.พ.
2.3 ต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติทั่วไปและไม่มีลักษณะต้องห้าม ตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติ ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ดังต่อไปนี้
ก. คุณสมบัติทั่วไป
(1) มีสัญชาติไทย
(2) มีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปี (นับถึงวันปิดรับสมัครสอบ)
(3) เป็นผู้เลื่อมใสในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขด้วยความบริสุทธิ์ใจ
ข. ลักษณะต้องห้าม
(1) เป็นผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง
(2) เป็นคนไร้ความสามารถ คนเสมือนไร้ความสามารถ คนวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ หรือเป็นโรคตามที่กําหนดในกฎ ก.พ. 2
(3) เป็นผู้อยู่ในระหว่างถูกสั่งพักราชการหรือถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนตามพระราชบัญญัตินี้หรือตามกฎหมายอื่น
(4) เป็นผู้บกพร่องในศีลธรรมอันดีจนเป็นที่รังเกียจของสังคม
(5) เป็นกรรมการหรือผู้ดํารงตําแหน่งที่รับผิดชอบในการบริหารพรรคการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ในพรรคการเมือง
(6) เป็นบุคคลล้มละลาย
(7) เป็นผู้เคยต้องรับโทษจําคุกโดยคําพิพากษาถึงที่สุดให้จําคุกเพราะกระทําความผิดทางอาญา เว้นแต่เป็นโทษสําหรับความผิดที่ได้กระทําโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
(8) เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออก ปลดออก หรือไล่ออกจากรัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ
(9) เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออก หรือปลดออก เพราะกระทําผิดวินัยตามพระราชบัญญัตินี้ หรือตามกฎหมายอื่น
(10) เป็นผู้เคยถูกลงโทษไล่ออก เพราะกระทําผิดวินัยตามพระราชบัญญัตินี้หรือตามกฎหมายอื่น
(11) เป็นผู้เคยกระทําการทุจริตในการสอบเข้ารับราชการ หรือเข้าปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ
ผู้ที่จะเข้ารับราชการเป็นข้าราชการพลเรือนซึ่งมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 36 ข. (4) (6) (7) (8) (9) (10) หรือ (11) ก.พ. อาจพิจารณายกเว้นให้เข้ารับราชการได้ แต่ถ้าเป็นกรณีมีลักษณะต้องห้ามตาม (4) หรือ (4) ผู้นั้นต้องออกจากงานหรือออกจากราชการไปเกินสองปีแล้ว และในกรณีมีลักษณะ ต้องห้ามตาม (10) ผู้นั้นต้องออกจากงานหรือออกจากราชการไปเกินสามปีแล้ว และต้องมิใช่เป็นกรณีออกจากงาน หรือออกจากราชการเพราะทุจริตต่อหน้าที่ สําหรับผู้มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 36 ข. (1) ให้มีสิทธิ สมัครสอบได้ แต่จะมีสิทธิได้รับบรรจุเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญที่สอบแข่งขันได้ต่อเมื่อพ้นจากการเป็นผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองแล้ว
สําหรับพระภิกษุหรือสามเณร ทางราชการไม่รับสมัครสอบ และไม่อาจให้เข้าสอบได้ ทั้งนี้ ตามคําสั่งมหาเถรสมาคม ที่ 1/2564 ลงวันที่ 28 กันยายน 2564 เรื่อง กรณีภิกษุสามเณรเรียนวิชา หรือสอบแข่งขันอย่างคฤหัสถ์ พ.ศ. 2564
3. การรับสมัครสอบ
3.1 ผู้สมัครสอบสามารถกรอกข้อมูลการสมัครสอบได้ที่เว็บไซต์ https://job3.ocsc.go.th หัวข้อ “สมัครสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไปด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Exam) ประจําปี 2566 ตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม 2566 เวลา 08.30 น. ถึงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 (ไม่เว้นวันหยุดราชการ) เว้นแต่กรณีที่ผู้สมัครสอบทั้ง 21 รอบสอบ มีการสมัครสอบครบตามจํานวนที่นั่งสอบทั้ง 186,158 ที่นั่งสอบ ก่อนวันที่กําหนดดังกล่าว จะไม่สามารถกรอกข้อมูลการสมัครสอบได้ ทั้งนี้ รายละเอียดศูนย์สอบ และจํานวน ที่นั่งสอบ เป็นไปตามเอกสารแนบท้าย 1
3.2 ผู้สมัครสอบจะต้องสมัครสอบตามขั้นตอนภายในระยะเวลาที่กําหนด ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 กรอกข้อมูลการสมัครสอบและพิมพ์แบบฟอร์มการชําระเงิน
(1) เข้าเว็บไซต์ https://job3.ocsc.go.th หัวข้อ “สมัครสอบเพื่อวัดความรู้ ความสามารถทั่วไปด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Exam) ประจําปี 2566” หัวข้อย่อย “สมัครสอบ” แล้ว กรอกข้อมูลส่วนบุคคล เลือกรอบสอบ และเลือกศูนย์สอบที่ต้องการ ให้ถูกต้อง และครบถ้วน เมื่อยืนยัน การสมัครสอบแล้ว จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ทั้งนี้ รายละเอียดรอบสอบปรากฏตามเอกสารแนบท้าย 2
(2) ระบบรับสมัครสอบจะดําเนินการตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลการสอบผ่าน การวัดความรู้ความสามารถทั่วไปของผู้สมัครสอบ กรณีที่ระบบตรวจสอบแล้วพบว่า ผู้สมัครสอบเป็นผู้สอบผ่าน การวัดความรู้ความสามารถทั่วไปของสํานักงาน ก.พ. ในระดับวุฒิการศึกษาใดแล้ว ผู้สมัครสอบจะไม่สามารถ สมัครสอบในระดับวุฒิการศึกษาเดียวกันหรือต่ำกว่าได้ ยกเว้นกรณีที่ผลการสอบผ่านของผู้สมัครสอบเป็นโมฆะ
และต้องการสมัครสอบในครั้งนี้ ผู้สมัครสอบจะต้องกรอกคําร้องขอเป็นผู้มีสิทธิสมัครสอบ พร้อมแนบไฟล์สําเนา ระเบียนแสดงผลการศึกษา (Transcript of Records) หรือเอกสารอื่น ๆ ผ่านเว็บไซต์ https://job3.ocsc.go.th ภายในวันปิดรับสมัครสอบ
(3) ระบบจะกําหนดแบบฟอร์มการชําระเงินที่มี QR Code ให้ผู้สมัครสอบสามารถ สแกนชําระเงินผ่านแอปพลิเคชัน “Krungthai Next” หรือ “เป๋าตัง” ได้ทันที หรือสามารถพิมพ์แบบฟอร์ม การชําระเงินลงในกระดาษขนาด A4 เพื่อชําระเงินในภายหลัง หรือหากไม่มีเครื่องพิมพ์ในขณะนั้น ให้บันทึก ข้อมูลเก็บไว้ในรูปแบบ File ลงในสื่อบันทึกข้อมูล
ในกรณีที่แบบฟอร์มการชําระเงินสูญหาย หรือกรอกใบสมัครแล้ว แต่ยังไม่ได้พิมพ์แบบฟอร์มการชําระเงิน ผู้สมัครสอบสามารถเข้าไปค้นหาในระบบรับสมัครสอบ และพิมพ์แบบฟอร์มการชําระเงินใหม่ได้
(4) กรณีมีที่นั่งสอบว่างจากการไม่ชําระเงินภายในวันและเวลาที่กําหนด ผู้สมัครสอบ สามารถตรวจสอบที่นั่งสอบที่ว่างได้ ในเวลาประมาณ 08.00 น. และสามารถสมัครสอบได้ ในเวลา 08.30 น. ของทุกวัน จนกว่าที่นั่งสอบจะเต็มทุกรอบสอบ หรือจนกว่าจะปิดการรับสมัครสอบ
ขั้นตอนที่ 2 ชําระเงินค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบ
(1) ผู้สมัครสอบต้องชําระเงินค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบ ภายในเวลา 22.00 น. ของวันถัดไปนับจากวันที่ที่ได้ยืนยันการสมัครสอบตาม (1) ของขั้นตอนที่ 1 และหากไม่ชําระเงินภายในวันและเวลาดังกล่าว ใบสมัครสอบจะถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติ
(2) ผู้สมัครสอบต้องชําระเงินค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบ จํานวน 330 บาท ประกอบด้วยค่าธรรมเนียมสอบ จํานวน 300 บาท และค่าธรรมเนียมธนาคารรวมค่าบริการทางอินเทอร์เน็ตคิดสูงสุดไม่เกิน 30 บาท โดยค่าธรรมเนียมดังกล่าวจะไม่จ่ายคืนให้ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น
(3) ผู้สมัครสอบสามารถชําระเงินค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบได้ 4 ช่องทาง คือ
- ช่องทางที่ 1 ชําระเงินผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย จํากัด (มหาชน) ทุกสาขาทั่วประเทศ ภายในวันและเวลาทําการของธนาคาร และตามวัน เวลาที่กําหนดในแบบฟอร์มการชําระเงิน และให้เก็บหลักฐานการชําระเงินไว้ด้วย ทั้งนี้ ผู้สมัครสอบต้องตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลในหลักฐาน การชําระเงิน หากพบว่าไม่ถูกต้อง ให้รีบติดต่อธนาคารกรุงไทย จํากัด (มหาชน) สาขาที่ชําระเงินทันที
- ช่องทางที่ 2 ชําระเงินผ่านเครื่อง ATM ของธนาคารกรุงไทย จํากัด (มหาชน) ตามวัน เวลาที่กําหนดในแบบฟอร์มการชําระเงิน โดยผู้สมัครสอบที่มีบัตร ATM ของธนาคารกรุงไทย จํากัด (มหาชน) สามารถนําแบบฟอร์มการชําระเงิน ไปทํารายการชําระเงินผ่านเครื่อง ATM ของธนาคารกรุงไทย จํากัด (มหาชน) โดยเลือกประเภทบริการ “บริการอื่น ๆ” เลือก “ชําระค่าบริการ/เติมเงินมือถือ” และเลือก “ระบุรหัสบริษัท/Biller ID” แล้วระบุรหัสบริษัทเป็น “92318” และปฏิบัติตามขั้นตอนที่ระบบกําหนดไว้ และให้เก็บหลักฐานการชําระเงิน (Slip) ไว้เป็นหลักฐานด้วย
- ช่องทางที่ 3 ชําระเงินผ่านทางแอปพลิเคชัน “Krungthai Next” ตามวัน เวลา ที่กําหนดในแบบฟอร์มการชําระเงิน โดยผู้สมัครสอบที่มีบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย จํากัด (มหาชน) ที่ได้ ลงทะเบียน (Register) ขอใช้บริการแอปพลิเคชัน “Krungthai Next” แล้ว สามารถนํารหัส QR Code ไปทํา รายการชําระเงินผ่านแอปพลิเคชัน “Krungthai Next” และปฏิบัติตามขั้นตอนที่ระบบกําหนดไว้ และให้เก็บ หลักฐานการชําระเงิน (Slip) ไว้เป็นหลักฐานด้วย
- ช่องทางที่ 4 ชําระเงินผ่านทางแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ตามวัน เวลาที่กําหนด ในแบบฟอร์มการชําระเงิน โดยผู้สมัครสอบที่ได้ลงทะเบียน (Register) ขอใช้บริการแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” แล้ว สามารถนํารหัส QR Code ไปทํารายการชําระเงินผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และปฏิบัติตามขั้นตอนที่ระบบ กําหนดไว้ และให้เก็บหลักฐานการชําระเงิน (Slip) ไว้เป็นหลักฐานด้วย
การสมัครสอบจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ต่อเมื่อผู้สมัครได้ชําระเงินค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบเรียบร้อยแล้ว
ขั้นตอนที่ 3 ตรวจสอบสถานะการสมัครสอบ
หลังจากที่ได้ชําระเงินค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบแล้ว 1 วัน ให้ผู้สมัครสอบตรวจสอบสถานะการสมัครสอบทางเว็บไซต์ https://job3.ocsc.go.th หัวข้อ “สมัครสอบเพื่อวัดความรู้ ความสามารถทั่วไปด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Exam) ประจําปี 2566” หัวข้อย่อย “ตรวจสอบสถานะ การสมัครสอบ” โดยกรอกเลขประจําตัวประชาชน 13 หลัก เพื่อตรวจสอบสถานะการสมัครสอบ
ขั้นตอนที่ 4 อัปโหลด (upload) รูปถ่าย
เมื่อปิดรับสมัครสอบแล้ว ให้ผู้สมัครสอบเข้าไปอัปโหลดรูปถ่ายของตนเองบนเว็บไซต์ได้ ดังนี้
(1) สําหรับผู้สมัครสอบรอบสอบที่ 1 – 7 ให้อัปโหลดรูปถ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2560 ถึงวันที่ 29 มีนาคม 2566
(2) สําหรับผู้สมัครสอบรอบสอบที่ 8 – 14 ให้อัปโหลดรูปถ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 ถึงวันที่ 26 เมษายน 2566
(3) สําหรับผู้สมัครสอบรอบสอบที่ 15 – 21 ให้อัปโหลดรูปถ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 ถึงวันที่ 24 พฤษภาคม 2566
โดยเข้าไปที่เว็บไซต์ https://job3.ocsc.go.th หัวข้อ “สมัครสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไป ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Exam) ประจําปี 2566” หัวข้อย่อย “อัปโหลด (upload) รูปถ่าย” แล้ว กรอกเลขประจําตัวประชาชน 13 หลัก เพื่ออัปโหลด (upload) รูปถ่ายหน้าตรง ไม่สวมหมวก ไม่สวมแว่นตาดํา ถ่ายไว้ไม่เกิน 5 เดือน พื้นหลังไม่มีลวดลาย (ประเภทของไฟล์เป็น .JPG ความละเอียดไม่น้อยกว่า 40 KB) โดยต้องเป็นรูปถ่ายที่ใช้ในการสมัครงาน
รูปถ่ายที่อัปโหลดจะปรากฏบนบัตรประจําตัวสอบและหนังสือรับรองผลการสอบผ่าน การวัดความรู้ความสามารถทั่วไปของสํานักงาน ก.พ. และไม่สามารถแก้ไขได้
กรณีที่ผู้สมัครสอบไม่ได้อัปโหลด (upload) รูปถ่าย จะไม่สามารถพิมพ์บัตรประจําตัวสอบได้ ทั้งนี้ การไม่มีบัตรประจําตัวสอบจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าสอบ
ขั้นตอนที่ 5 พิมพ์บัตรประจําตัวสอบ
ผู้สมัครสอบสามารถพิมพ์บัตรประจําตัวสอบได้ตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม 2566 ภายหลังจากการดําเนินการตามขั้นตอนที่ 4 เสร็จสิ้นแล้ว โดยเข้าไปที่เว็บไซต์ https://job3.ocsc.go.th หัวข้อ “สมัครสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไปด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Exam) ประจําปี 2566” หัวข้อย่อย “ค้นหาสถานที่สอบและพิมพ์บัตรประจําตัวสอบ” โดยกรอกเลขประจําตัวประชาชน 13 หลัก เพื่อพิมพ์บัตรประจําตัวสอบ พร้อมลงลายมือชื่อ และนําไปยื่นให้เจ้าหน้าที่ในวันสอบ ณ จุดลงทะเบียน
ทั้งนี้ บัตรประจําตัวสอบถือเป็นเอกสารสําคัญที่ต้องนําไปแสดงตนเพื่อใช้ในการเข้าห้องสอบ หากไม่มีบัตรประจําตัวสอบจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าสอบ และแม้ว่ามีบัตรประจําตัวสอบ แต่หากรูปถ่ายที่ปรากฏ บนบัตรประจําตัวสอบไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กําหนดไว้ในขั้นตอนที่ 4 ให้ถือเป็นความบกพร่องของผู้สมัครสอบและจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าสอบเช่นเดียวกัน
4. เงื่อนไขการสมัครสอบ
4.1 ผู้สมัครสอบที่เลือกสมัครสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไป ประจําปี 2566 และได้ชําระค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบแล้ว จะไม่สามารถสมัครสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไป ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ประจําปี 2566 ตามประกาศฉบับนี้ได้
4.2 การรับสมัครสอบ จํานวน 21 รอบสอบ ณ ศูนย์สอบ 18 แห่ง ตามที่กําหนด ผู้สมัครสอบ สามารถสมัครสอบทางอินเทอร์เน็ตได้เพียงครั้งเดียว และสามารถเลือกรอบสอบได้เพียง 1 รอบสอบ 1 ศูนย์สอบ เท่านั้น เมื่อเลือกและยืนยันการสมัครสอบแล้ว จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูลการสมัครสอบไม่ได้
4.3 ผู้สมัครสอบที่สอบผ่านการวัดความรู้ความสามารถทั่วไปของสํานักงาน ก.พ. ในระดับวุฒิการศึกษาใดแล้ว จะไม่สามารถสมัครสอบในระดับวุฒิการศึกษาเดียวกัน หรือต่ำกว่าได้
4.4 การกําหนดวัน เวลา และสถานที่สอบ เป็นไปตามที่สํานักงาน ก.พ. กําหนด
4.5 การสมัครสอบตามขั้นตอนข้างต้น ถือว่าผู้สมัครสอบเป็นผู้ลงลายมือชื่อ และรับรอง ความถูกต้องของข้อมูลดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ดังนั้น หากผู้สมัครสอบจงใจกรอกข้อมูลอันเป็นเท็จ อาจมีความผิดฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137
4.6 ผู้สมัครสอบต้องรับผิดชอบในการรับรองตนเองว่าเป็นผู้สําเร็จการศึกษา หรือเป็นผู้ที่กําลัง จะสําเร็จการศึกษาตามประกาศรับสมัครสอบ และต้องกรอกรายละเอียดต่าง ๆ ให้ถูกต้อง ครบถ้วน ตรงตาม ความเป็นจริง ในกรณีที่มีความผิดพลาดอันเกิดจากผู้สมัครสอบ สํานักงาน ก.พ. จะถือว่าผู้สมัครสอบเป็นผู้ขาดคุณสมบัติในการสมัครสอบมาตั้งแต่ต้น
4.7 การสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไปด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ประจําปี 2566 สามารถรองรับผู้สมัครสอบที่มีความพิการทางการเคลื่อนไหวหรือทางร่างกาย ตามประกาศกระทรวง การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เรื่อง ประเภทและหลักเกณฑ์ความพิการ ลงวันที่ 30 เมษายน 2552 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เท่านั้น โดยสํานักงาน ก.พ. จะพยายามอํานวยความสะดวกให้ในวันสอบตามที่ผู้สมัครสอบ แจ้งไว้ใน
5. ใบสมัคร และตามที่สํานักงาน ก.พ. เห็นสมควร การประกาศรายชื่อผู้สมัครสอบ วัน เวลา สถานที่สอบ และระเบียบเกี่ยวกับการสอบ
สํานักงาน ก.พ. จะประกาศรายชื่อผู้สมัครสอบ วัน เวลา สถานที่สอบ และระเบียบเกี่ยวกับการสอบ ในวันที่ 10 มีนาคม 2566 ทางเว็บไซต์ https://job3.ocsc.go.th หัวข้อ “สมัครสอบเพื่อวัด ความรู้ความสามารถทั่วไปด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Exam) ประจําปี 2566” หัวข้อย่อย “ประกาศรายชื่อ ผู้สมัครสอบ” และ “ประกาศกําหนดวัน เวลา สถานที่สอบ และระเบียบเกี่ยวกับการสอบ”
6. หลักสูตรและวิธีการสอบ
ทดสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไป (คะแนนเต็ม 200 คะแนน) โดยวิธีการสอบด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ดังต่อไปนี้
6.1 วิชาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ (คะแนนเต็ม 100 คะแนน) เป็นการทดสอบ ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ครอบคลุมประเด็น ดังนี้
(1) การคิดวิเคราะห์เชิงภาษา ได้แก่ การใช้ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร ความเข้าใจ
ในการอ่านภาษาไทย การจับใจความสําคัญ การสรุปความ การตีความจากบทความ ข้อความ หรือสถานการณ์ต่าง ๆ (2) การคิดวิเคราะห์เชิงนามธรรม ได้แก่ การคิดหาความสัมพันธ์เชื่อมโยงคํา ข้อความ หรือรูปภาพ ตลอดจนการหาข้อสรุปอย่างสมเหตุสมผลจากข้อความ สัญลักษณ์ รูปภาพ สถานการณ์ หรือแบบจําลองต่าง ๆ และ
(3) การคิดวิเคราะห์เชิงปริมาณ ได้แก่ ความเข้าใจ ความคิดรวบยอด และแก้ปัญหา ทางคณิตศาสตร์เบื้องต้น การเปรียบเทียบและวิเคราะห์เชิงปริมาณ ตลอดจนการประเมินความเพียงพอของข้อมูล
6.2 วิชาภาษาอังกฤษ (คะแนนเต็ม 50 คะแนน) เป็นการทดสอบทักษะภาษาอังกฤษ เพื่อวัดความเข้าใจในหลักการสื่อสาร โดยใช้ศัพท์ สํานวน โครงสร้างประโยคที่เหมาะสม ทั้งในเชิงความหมาย และบริบท แสดงถึงความสามารถในการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ การวัดความสามารถด้านการอ่าน โดยทดสอบการทําความเข้าใจในสาระของข้อความหรือบทความ และการวัดความสามารถด้านการเขียนภาษาอังกฤษในระดับเบื้องต้น
6.3 วิชาความรู้และลักษณะการเป็นข้าราชการที่ดี (คะแนนเต็ม 50 คะแนน) เป็นการทดสอบ ความรู้ที่เป็นพื้นฐานของการเป็นข้าราชการที่ดี ได้แก่ ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน หลักการบริหารกิจการ บ้านเมืองที่ดี วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง หน้าที่และความรับผิดในการปฏิบัติหน้าที่ราชการ ตลอดจนเจตคติและจริยธรรมสําหรับข้าราชการ
7. เกณฑ์การสอบผ่านการวัดความรู้ความสามารถทั่วไป
7.1 ระดับปริญญาตรี
ผู้ที่จะถือว่าเป็นผู้สอบผ่านการวัดความรู้ความสามารถทั่วไป ต้องเป็นผู้สอบวิชาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ได้คะแนนรวมกันไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 วิชาภาษาอังกฤษ ได้คะแนน ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 และวิชาความรู้และลักษณะการเป็นข้าราชการที่ดี ได้คะแนนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50
7.2 ระดับปริญญาโท
ผู้ที่จะถือว่าเป็นผู้สอบผ่านการวัดความรู้ความสามารถทั่วไป ต้องเป็นผู้สอบ วิชาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ได้คะแนนรวมกันไม่ต่ำกว่าร้อยละ 65 วิชาภาษาอังกฤษ ได้คะแนน ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 และวิชาความรู้และลักษณะการเป็นข้าราชการที่ดี ได้คะแนนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50
8. การประกาศรายชื่อผู้สอบผ่านและการพิมพ์หนังสือรับรองผลการสอบผ่านการวัดความรู้
ความสามารถทั่วไป
8.1 สํานักงาน ก.พ. จะประกาศรายชื่อผู้สอบผ่านการวัดความรู้ความสามารถทั่วไป ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ประจําปี 2566 ทางเว็บไซต์ https://job3.ocsc.go.th ดังนี้
(1) ผู้สอบรอบสอบที่ 1 – 7 ประกาศรายชื่อผู้สอบผ่านฯ ภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2566
(2) ผู้สอบรอบสอบที่ 8 – 14 ประกาศรายชื่อผู้สอบผ่านฯ ภายในวันที่ 28 มิถุนายน 2566
(3) ผู้สอบรอบสอบที่ 15 – 21 ประกาศรายชื่อผู้สอบผ่านฯ ภายในวันที่ 26 กรกฎาคม 2566
8.2 ผู้ที่สอบผ่านสามารถพิมพ์หนังสือรับรองผลการสอบผ่านการวัดความรู้ความสามารถ ทั่วไปของสํานักงาน ก.พ. ได้ทางเว็บไซต์ https://job.ocsc.go.th หัวข้อ “พิมพ์หนังสือรับรองผลการสอบผ่าน” และดําเนินการตามขั้นตอนที่กําหนดไว้ทางเว็บไซต์ ดังนี้
(1) ผู้สอบผ่านรอบสอบที่ 1 – 7 พิมพ์หนังสือรับรองผลฯ ได้ตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2566 เป็นต้นไป
(2) ผู้สอบผ่านรอบสอบที่ 8 – 14 พิมพ์หนังสือรับรองผลฯ ได้ตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม 2566 เป็นต้นไป
(3) ผู้สอบผ่านรอบสอบที่ 15 – 21 พิมพ์หนังสือรับรองผลฯ ได้ตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม 2566 เป็นต้นไป
9. การนําหนังสือรับรองผลการสอบผ่านการวัดความรู้ความสามารถทั่วไปของสํานักงาน ก.พ. ไปใช้ในการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการของส่วนราชการต่าง ๆ
9.1 หนังสือรับรองผลการสอบผ่านการวัดความรู้ความสามารถทั่วไปของสํานักงาน ก.พ. สามารถใช้ได้ตลอดไป เว้นแต่ ก.พ. จะกําหนดเป็นอย่างอื่น
9.2 หนังสือรับรองผลการสอบผ่านการวัดความรู้ความสามารถทั่วไปของสํานักงาน ก.พ. ในระดับวุฒิการศึกษาที่สูงกว่าสามารถนําไปใช้ในการสอบแข่งขันในระดับวุฒิการศึกษาที่ต่ำกว่าได้
9.3 ผลการสอบถือเป็นโมฆะ เมื่อเข้ากรณีใดกรณีหนึ่ง ดังนี้
(1) เลขประจําตัวประชาชนของผู้สอบผ่านการวัดความรู้ความสามารถทั่วไปไม่ตรงกับ ฐานข้อมูลทะเบียนบัตรประจําตัวประชาชนของกรมการปกครอง
(2) ผู้สอบผ่านไม่สําเร็จการศึกษาภายในปีการศึกษา 2566 (3) ผู้สอบผ่านเป็นผู้กระทําการทุจริตในการสอบตามประกาศนี้
9.4 ผู้ที่ได้รับหนังสือรับรองผลการสอบผ่านการวัดความรู้ความสามารถทั่วไปของสํานักงาน ก.พ. สามารถนําหนังสือรับรองผลการสอบดังกล่าวไปใช้สมัครสอบกับส่วนราชการที่ประกาศรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการ โดยต้องมีคุณวุฒิการศึกษาตรงตามประกาศรับสมัครสอบของส่วนราชการนั้น ในครั้งนั้นด้วย
10. การขอดูผลคะแนนสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไป
10.1 ผู้สมัครสอบสามารถดูผลคะแนนสอบได้ทางเว็บไซต์ https://job3.ocsc.go.th หัวข้อ “การสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไปด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Exam) ประจําปี 2566” หัวข้อย่อย “ดูผลคะแนนสอบ” โดยกรอกเลขประจําตัวประชาชน 13 หลัก และรหัสผ่านที่กําหนดไว้ตอนสมัครสอบ
10.2 การประกาศรายชื่อผู้สอบผ่านการวัดความรู้ความสามารถทั่วไปของสํานักงาน ก.พ. ให้ถือเป็นที่สุด ผู้สอบไม่มีสิทธิขอให้ทบทวนแต่ประการใด กรณีที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับผลการสอบ สามารถติดต่อ สอบถามได้ที่ศูนย์สรรหาและเลือกสรร สํานักงาน ก.พ. ภายใน 90 วัน นับจากวันที่ประกาศรายชื่อผู้สอบผ่าน การวัดความรู้ความสามารถทั่วไป