ศาลรัฐธรรมนูญ นัดอ่านคำวินิจฉัย พรุ่งนี้ (30 กันยายน 2565) กรณีว่าวาระการดำรงตำแหน่ง นายก 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สิ้นสุดในวันที่ 23 สิงหาคม 2565 หรือไม่
- ย้อนดู 7 เหตุผลที่ศาล รธน. มีมติ 9:0 ธรรมนัส ไม่ขาดคุณสมบัติ รมต.
- ลงทะเบียนล้างแอร์ช่วยชาติ เฟส 2 กฟผ. (หมดเขต 30 ก.ย. 2565)
ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยนายก 8 ปี พรุ่งนี้ (30 กันยายน 2565)
พรุ่งนี้ (30 กันยายน 2565) ศาลรัฐธรรมนูญ จะนัดอ่านคำวินิจฉัย กรณีการวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าสิ้นสุดในวันที่ 23 สิงหาคม 2565 หรือไม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัย รับคำร้อง 5:4 เสียง กรณีดังกล่าวและสั่งให้นายกรัฐมนตรียุติการปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย
โดยเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2565 ในการประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีการพิจารณาคดีอื่นๆ รวมถึงคำร้องของ ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้านที่เข้าชื่อ ยื่นเรื่องต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้สิ้นสุดในวันที่ 23 สิงหาคม 2565 หรือไม่เนื่องจากได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ของประเทศไทย เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2557
ประธานสภาฯ เชื่อ ไม่มีสุญญากาศทางการเมืองหลังศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัย
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา เชื่อว่าจะไม่เกิดสุญญากาศทางการเมือง หลังศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยเกี่ยวกับวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในวันที่ 30 กันยายน 2565 (พรุ่งนี้)
ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎรมีกฎหมาย ระเบียบ และข้อกำหนดไว้อยู่แล้ว แม้จะเป็นช่วงปิดสมัยประชุม อย่างไรก็ตาม ขอไม่แสดงความเห็นว่าหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ พล.อ.ประยุทธ์ พ้นจากตำแหน่งจะมีขั้นตอนอย่างไร เพราะเหตุการณ์ยังไม่เกิดขึ้น
รักษาการฯ นายกฯ ไม่ห่วง คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ 30 ก.ย. ยืนยันไม่มีแผนใช้ม็อบสกัดม็อบ
ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 2/2565 ถึงกรณีการพบปะกลุ่มผู้ชุมนุมเครือข่ายประชาชน 4 ภาคและเกษตรกร ที่ปักหลักอยู่บริเวณด้านหน้าทำเนียบรัฐบาลวานนี้ (28 กันยายน 2565) ว่า กลุ่มผู้ชุมนุมมาขอร้อง เนื่องจากตนเองเป็นประธานในการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำ ปัญหาเรื่องน้ำ ปัญหาเรื่องที่ดินและปัญหาเรื่องที่อยู่ที่อาศัย ว่ายังไม่ได้รับอะไรบ้างเท่านั้น
ส่วนประเด็นที่มีการมองว่ากลุ่มผู้ชุมนุมที่มาปักหลักบริเวณด้านหน้าทำเนียบรัฐบาลเพื่อเป็นการป้องกันกลุ่มผู้ชุมนุมอื่นเคลื่อนไหวในวันที่ 30 กันยายน 2565 ซึ่งเป็นวันที่ศาลรัฐธรรมนูญจะอ่านคำวินิจฉัยวาระ 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือไม่ พล.อ.ประวิตรเปิดเผยว่า “ไม่รู้ ผมไม่รู้“ เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าเป็นการนำม็อบมากันม็อบหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มี จะมีที่ไหนที่จะเอาม็อบมากันม็อบ
เมื่อถามว่าในวันที่ 30 กันยายน 2565 นี้ ยังมีอะไรที่น่าเป็นห่วงหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ไม่ห่วง”
บช.น.ประชุมวางแผนรับมือผู้ชุมนุม กรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัย วาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี พล.อ.ประยุทธ์
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รอง ผบช.น. เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณศาลรัฐธรรมนูญ ที่ศูนย์ราชการฯ กรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยกรณีวาระดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในวันศุกร์ที่ 30 กันยายน 2565 นี้ โดยรอง ผบช.น. เปิดเผยว่า ตนได้สั่งการให้ทางกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 (บก.น.2) จัดเตรียมกำลังตำรวจไว้ จำนวน 2 กองร้อย เพื่ออำนวยความสะดวกความปลอดภัยบริเวณพื้นที่ศาลมีการประกาศออกมาเป็นพื้นที่ควบคุม
ทั้งนี้ ยังไม่มีการข่าวว่าจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นแต่อย่างใด ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดูแลบริเวณจุดต่างๆ อย่างเต็มที่เพื่อป้องกันไม่มีเหตุการณ์ก่อให้เกิดความเดือดร้อนกับพี่น้องประชาชน
ย้อนรอยเหตุผล “ศาลรัฐธรรมนูญ” มีมติ 5 : 4 รับคำร้อง นายกฯ 8 ปี ยุติการปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย รู้ผล 30 ก.ย. 2565
ในกรณีว่าวาระการดำรงตำแหน่ง นายกฯ 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สิ้นสุดในวันที่ 23 สิงหาคม 2565 หรือไม่ ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยรับคำร้อง ด้วยเสียง 5:4 เสียง ทำให้นายกรัฐมนตรีต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันี้จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย เนื่องจากเห็นว่าตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นตำแหน่งสำคัญของการบริหารราชการแผ่นดิน
โดยเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญแล้ว และจะอ่านคำวินิจฉัยในวันที่ 30 กันยายน 2565 (พรุ่งนี้)
สรุป คำวินิจฉัยเรื่องพิจารณา ที่ 17/2565 ของ ศาลรัฐธรรมนูญ ปม นายก 8 ปี
ผลการพิจารณา สรุปได้ว่า ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกบคำร้องแล้ว เห็นว่ากรณีเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 วรรคหนึ่ง และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 7 (8) จึงมีมติเอกฉันท์ รับคำร้องนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัย ให้ผู้ถูกร้องยื่นคำร้องชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในสิบห้าวัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง
สำหรับคำขอของผู้ร้องที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสอง ศาลพิจารณาคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่ามีกรณีตามที่ถูกร้อง จึงมีมติเสียงข้างมาก (5 ต่อ 4) ให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2565 จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย