ประกันสังคมชง ของขวัญปีใหม่ 2565 ลดอัตราเงินสมทบประกันสังคม ม.40 เหลือ 60% ต่ออีก 6 เดือน เพื่อช่วยเหลือผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่ประกอบอาชีพอิสระ
- สมัครประกันสังคม ม.40 กลุ่มคนกลางคืน รับเงินเยียวยา 5,000 บาท
- ลงทะเบียนฉีดวัคซีนเข็ม 3 ผ่าน e-service ประกันสังคม 15 ธ.ค. นี้ เริ่มฉีด ก.พ. 65
28 ธันวาคม 2564 – นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน เตรียมส่งมอบของขวัญปีใหม่ให้แก่ผู้ใช้แรงงานในปี 2565
สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ในฐานะหน่วยงานที่บริหารการประกันสังคมและเงินทดแทน เพื่อให้แรงงานผู้ประกันตนตามมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 มีหลักประกันการดำรงชีวิตที่มั่นคงให้กับ จึงได้ขานรับนโยบายโดยมอบของขวัญปีใหม่ 2565 สำหรับผู้ประกันตนโดยมีการเสนอ มาตรการลดอัตราเงินสมทบของผู้ประกันตน ม. 40 เหลือ 60% ต่ออีกเป็นระยะเวลา 6 เดือน และมาตรการอื่นๆ ดังนี้
ลดอัตราเงินสมทบประกันสังคม ม.40 เหลือ 60% ตั้งแต่ ก.พ. – ก.ค. 2565
สำนักงานประกันสังคมเสนอปรับลดอัตราการส่งเงินสมทบของผู้ประกันตน ม.40 ลงเหลือ 60% ต่ออีกเป็นเวลา 6 เดือน ตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ ถึง 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 ทำให้ผู้ประกันตนมาตรา 40 ซึ่งเป็นผู้ประกอบอาชีพอิสระ ฟรีแลนซ์ ค้าขาย และสนใจประกันตนภาคสมัครใจ จะมีทางเลือกส่งเงินสมทบได้ 3 ทางเลือก
- ทางเลือกที่ 1 เลือกรับประโยชน์ทดแทน 3 กรณี: อัตราเงินสมทบเหลือเดือนละ 42 บาท (จากเดิม 70 บาท)
- คุ้มครองกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย
- คุ้มครองกรณีทุพพลภาพ
- คุ้มครองกรณีเสียชีวิต
- ทางเลือกที่ 2 เลือกรับประโยชน์ทดแทน 4 กรณี: อัตราเงินสมทบเหลือเดือนละ 60 บาท (จากเดิม 100 บาท)
- คุ้มครองกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย
- คุ้มครองกรณีทุพพลภาพ
- คุ้มครองกรณีเสียชีวิต
- คุ้มครองกรณีชราภาพ ได้รับเงินก้อนพร้อมดอกผล
- ทางเลือกที่ 3 เลือกรับประโยชน์ทดแทน 5 กรณี: อัตราเงินสมทบเหลือเดือนละ 180 บาท (จากเดิม 300 บาท)
- คุ้มครองกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย
- คุ้มครองกรณีทุพพลภาพ
- คุ้มครองกรณีเสียชีวิต
- คุ้มครองกรณีชราภาพ ได้รับเงินก้อนพร้อมดอกผล
- คุ้มครองกรณีสงเคราะห์บุตร ได้รับเงินรายเดือนตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 ขวบ
หมายเหตุ: ทางเลือกที่ 1 จะได้รับประโยชน์ทดแทนน้อยที่สุด ในขณะที่ทางเลือกที่ 3 จะได้รับประโยชน์ทดแทนมากที่สุด
เสนอลดขั้นตอนอนุมัติสิทธิ ปรับรูปแบบบริการขออนุมัติสิทธิฟอกเลือด และจัดหาของเยี่ยมให้กับผู้ประกันตน
พร้อมกันนี้ สำนักงานประกันสังคมยังได้เสนอลดขั้นตอนอนุมัติสิทธิ ปรับรูปแบบบริการขออนุมัติสิทธิฟอกเลือด และจัดหาของเยี่ยมให้กับผู้ประกันตน เพื่อเป็นของขวัญ 2565 โดยมีรายละเอียดดังนี้
ลดขั้นตอนอนุมัติสิทธิ
ลดขั้นตอนอนุมัติสิทธิ ปรับรูปแบบบริการขออนุมัติสิทธิฟอกเลือด โดยผู้ประกันตนไม่ต้องสำรองจ่าย ได้ตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 เป็นต้นไป โดยพัฒนาระบบการลงทะเบียนการบำบัดทดแทนไตกรณีฟอกเลือดร่วมกับสำนักสารสนเทศบริการสุขภาพ (สกส.)
จากเดิมที่ผู้ประกันตนรายใหม่ไปรักษาที่สถานพยาบาลต้องสำรองจ่ายไปก่อน และไปยื่นเอกสารที่สำนักงานประกันสังคม รอผลการอนุมัติใช้ระยะเวลารอคอยนาน (สูงสุดใช้ระยะเวลา 3 เดือน) เปลี่ยนเป็นผู้ประกันตนรายใหม่ไปยื่นที่สถานพยาบาลที่รักษาได้ทันที ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ต้องสำรองจ่าย ทำให้ผู้ประกันตนได้รับความสะดวกรวดเร็ว (One Stop Service) ลดเอกสาร และลดขั้นตอน
ทั้งนี้ มีผู้ประกันตนไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายรายใหม่ที่มารับบริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมเฉลี่ยเดือนละ 240 คน (อัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 1,500 บาทต่อครั้ง)
- ระยะเวลา 1 เดือน ผู้ประกันตนไม่ต้องสำรองจ่าย 18,000 บาทต่อคน (เฉลี่ยมารับบริการคนละ 12 ครั้งต่อเดือน) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 4.32 ล้านบาท
- ระยะเวลาสูงสุด 3 เดือน ผู้ประกันตนไม่ต้องสำรองจ่าย 54,000 บาทต่อคน (เฉลี่ยมารับบริการคนละ 36 ครั้ง) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 12.96 ล้านบาท
จัดหาของเยี่ยมให้กับผู้ประกันตน
จัดหาของเยี่ยมให้กับผู้ประกันตนทั้ง 3 มาตรา ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง ผู้ทุพพลภาพ ที่รักษาตัว ณ สถานพยาบาล หรือออกเยี่ยม ณ บ้านพักของผู้ประกันตน
หวังบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประกันตนในกรณีเกิดโรคระบาดโควิด-19
นายบุญสงค์ กล่าวว่า การมอบของขวัญปีใหม่ 2565 ในครั้งนี้ เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย บรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประกันตนในกรณีเกิดโรคระบาดโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อสภาวะทางเศรษฐกิจ ช่วยอำนวยความสะดวกในการติดต่อใช้บริการงานประกันสังคม อีกทั้งเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดี ด้วยความห่วงใยและสร้างกำลังใจให้กับผู้ประกันตนในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
ช่องทางตรวจสอบสิทธิเงินเยียวยาประกันสังคม ม.40
สมัครประกันสังคม มาตรา 40 ได้หลายช่องทาง
สำนักงานประกันสังคมเปิดช่องทาง สมัครประกันสังคมมาตรา 40 ดังต่อไปนี้
- สายด่วนประกันสังคม หมายเลข 1506
- ร้าน 7-Eleven ทุกสาขา
- ธนาคาร ธกส. ทุกสาขา
- ห้างสรรพสินค้า Big C
- เว็บไซต์ประกันสังคม www.sso.go.th ระบบขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนตามมาตรา 40
คุณสมบัติผู้สมัครประกันสังคม มาตรา 40 ที่มีสิทธิรับเงินเยียวยา 5,000 บาท
- เป็นผู้มีสัญชาติไทย
- มีอายุตั้งแต่ 15 – 65 ปีบริบูรณ์
- ประกอบอาชีพอิสระ เช่น ค้าขาย รับจ้าง เป็นต้น
- ไม่ได้เป็นลูกจ้างในบริษัท หรือมีนายจ้าง หรือผู้ประกันตน ม.33
- ไม่ได้เป็นผู้จ่ายประกันสังคมแบบสมัครใจ หรือผู้ประกันตน ม.39
- ไม่ได้เป็นข้าราชการ หรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ
มาตรการลดอัตราเงินสมทบให้ผู้ประกันตน ม.40 เดิมใกล้หมดอายุ ม.ค. 2565
ก่อนหน้านี้ พระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินสมทบประเภทของประโยชน์ทดแทน ตลอดจนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขแห่งสิทธิในการรับประโยชน์ทดแทนของบุคคลซึ่งสมัครเป็นผู้ประกันตน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2564 ได้ปรับลดอัตราการส่งเงินสมทบของผู้ประกันตน ม.40 ลงเหลือ 60% เป็นเวลา 6 เดือน ตั้งแต่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2564 ถึง 31 มกราคม พ.ศ. 2565 โดยผู้ประกันตนมาตรา 40 ซึ่งเป็นผู้ประกอบอาชีพอิสระ ฟรีแลนซ์ ค้าขาย และสนใจประกันตนภาคสมัครใจ จะมีทางเลือกส่งเงินสมทบได้ 3 ทางเลือกเช่นกัน
- ทางเลือกที่ 1 เลือกรับประโยชน์ทดแทน 3 กรณี: อัตราเงินสมทบเหลือเดือนละ 42 บาท (จากเดิม 70 บาท)
- คุ้มครองกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย
- คุ้มครองกรณีทุพพลภาพ
- คุ้มครองกรณีเสียชีวิต
- ทางเลือกที่ 2 เลือกรับประโยชน์ทดแทน 4 กรณี: อัตราเงินสมทบเหลือเดือนละ 60 บาท (จากเดิม 100 บาท)
- คุ้มครองกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย
- คุ้มครองกรณีทุพพลภาพ
- คุ้มครองกรณีเสียชีวิต
- คุ้มครองกรณีชราภาพ ได้รับเงินก้อนพร้อมดอกผล
- ทางเลือกที่ 3 เลือกรับประโยชน์ทดแทน 5 กรณี: อัตราเงินสมทบเหลือเดือนละ 180 บาท (จากเดิม 300 บาท)
- คุ้มครองกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย
- คุ้มครองกรณีทุพพลภาพ
- คุ้มครองกรณีเสียชีวิต
- คุ้มครองกรณีชราภาพ ได้รับเงินก้อนพร้อมดอกผล
- คุ้มครองกรณีสงเคราะห์บุตร ได้รับเงินรายเดือนตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 ขวบ