ประกาศเป็นกฎหมายแล้ว มีผลตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2565 ลดอัตราเงินสมทบประกันสังคม 2565 สำหรับ ม.33 ฝ่ายลูกจ้าง ลดเหลือ 1% พร้อมลดอัตราสมทบประกันสังคมให้ผู้ประกันตน ม.39 และ ม.40 เป็นเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม – กรกฎาคม 2565
- ครม. ไฟเขียว ระดมทุน Startup ยกเว้นภาษีกำไร 10 ปี
- ลงทะเบียนล้างแอร์ฟรี egat.co.th 1 หมื่นสิทธิ์ เช็กสิทธิ์ล้างแอร์ฟรี
ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว กฎกระทรวงกำหนดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคม พ.ศ. 2565 ส่งผลให้ทั้งนายจ้างและผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม ม.33 (ลูกจ้าง) ลดเหลือ 1% นอกจากนี้ ยังปรับลดอัตราสมทบประกันสังคมให้ผู้ประกันตน ม.39 และ ม.40 ด้วย เป็นเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม – กรกฎาคม 2565 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ลดอัตราเงินสมทบประกันสังคม มาตรา 33 จากเดิม 5% เหลือ 1% จ่ายสูงสุดเดือนละ 150 บาท เริ่ม พ.ค. – ก.ค. 2565
ครั้งนี้ นายจ้างและลูกจ้างที่อยู่ในระบบประกันสังคมมาตรา 33 จะได้รับสิทธิลดอัตราเงินสบทบประกันสังคม จาก 5% เหลือ 1% เป็นเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม – กรกฎาคม 2565
สรุป อัตราเงินสมทบประกันสังคม 2565
ปี 2565 | อัตราเงินสมทบของลูกจ้าง | ลูกจ้างสมทบสูงสุด | อัตราเงินสมทบของนายจ้าง | นายจ้างสมทบสูงสุด |
ช่วงเวลาปกติ | 5% | ฿750 | 5% | ฿750 |
ม.ค. 2565 | 5% | ฿750 | 5% | ฿750 |
ก.พ. 2565 | 5% | ฿750 | 5% | ฿750 |
มี.ค. 2565 | 5% | ฿750 | 5% | ฿750 |
เม.ย. 2565 | 5% | ฿750 | 5% | ฿750 |
พ.ค. 2565 NEW! | 1% | ฿150 | 1% | ฿150 |
มิ.ย. 2565 NEW! | 1% | ฿150 | 1% | ฿150 |
ก.ค. 2565 NEW! | 1% | ฿150 | 1% | ฿150 |
ส.ค. 2565 | 5% | ฿750 | 5% | ฿750 |
ก.ย. 2565 | 5% | ฿750 | 5% | ฿750 |
ต.ค. 2565 | 5% | ฿750 | 5% | ฿750 |
พ.ย. 2565 | 5% | ฿750 | 5% | ฿750 |
ธ.ค. 2565 | 5% | ฿750 | 5% | ฿750 |
รวม | ฿7,200 | ฿7,200 |
หมายเหตุ: หากยังคงอัตราเงินสมทบประกันสังคมตามนี้จนถึงสิ้นปี 2565 ลูกจ้างจะใช้สิทธิลดหย่อนประกันสังคมเพื่อคำนวณภาษีสำหรับปีภาษี 2565 ได้สูงสุด 7,200 บาท
ลดอัตราเงินสมทบผู้ประกันตนมาตรา 39 จาก 9% เหลือ 1.9% เริ่ม พ.ค. – ก.ค. 2565
ลดอัตราเงินสมทบให้กับผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ซึ่งเป็นผู้ประกันตนโดยสมัครใจ โดยเคยเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และจ่ายเงินสมทบก่อนออกจากงานมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือนแล้วลาออกจากงานไม่เกิน 6 เดือน แต่ต้องการรักษาสิทธิประกันสังคม 6 กรณี ได้แก่
- ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย
- คลอดบุตร
- ทุพพลภาพ
- ตาย
- สงเคราะห์บุตร
- ชราภาพ
ทั้งนี้ โดยปกติ ผู้ประกันตนมาตรา 39 จะต้องจ่ายเงินสมทบประกันสังคมเดือนละ 432 บาท ได้รับสิทธิจ่ายลดลงเหลือ เดือนละ 91 บาท
ลดอัตราเงินสมทบของผู้ประกันตนมาตรา 40 ลงเหลือ 42 – 180 บาทต่อเดือน เริ่ม พ.ค. – ก.ค. 2565
ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ฟรีแลนซ์ ค้าขาย และสนใจประกันตนภาคสมัครใจ สามารถเป็นผู้ประกันตน ม.40 ได้ โดยมีทางเลือกส่งเงินสมทบได้ 3 ทางเลือก ดังนี้
- ทางเลือกที่ 1 เลือกรับประโยชน์ทดแทน 3 กรณี: อัตราเงินสมทบเหลือเดือนละ 42 บาท (จากเดิม 70 บาท)
- คุ้มครองกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย
- คุ้มครองกรณีทุพพลภาพ
- คุ้มครองกรณีเสียชีวิต
- ทางเลือกที่ 2 เลือกรับประโยชน์ทดแทน 4 กรณี: อัตราเงินสมทบเหลือเดือนละ 60 บาท (จากเดิม 100 บาท)
- คุ้มครองกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย
- คุ้มครองกรณีทุพพลภาพ
- คุ้มครองกรณีเสียชีวิต
- คุ้มครองกรณีชราภาพ ได้รับเงินก้อนพร้อมดอกผล
- ทางเลือกที่ 3 เลือกรับประโยชน์ทดแทน 5 กรณี: อัตราเงินสมทบเหลือเดือนละ 180 บาท (จากเดิม 300 บาท)
- คุ้มครองกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย
- คุ้มครองกรณีทุพพลภาพ
- คุ้มครองกรณีเสียชีวิต
- คุ้มครองกรณีชราภาพ ได้รับเงินก้อนพร้อมดอกผล
- คุ้มครองกรณีสงเคราะห์บุตร ได้รับเงินรายเดือนตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 ขวบ
หมายเหตุ: ทางเลือกที่ 1 จะได้รับประโยชน์ทดแทนน้อยที่สุด ในขณะที่ทางเลือกที่ 3 จะได้รับประโยชน์ทดแทนมากที่สุด
ลดอัตราเงินสมทบประกันสังคม 2565 ส่วนหนึ่งของ 10 มาตรการช่วยเหลือประชาชน
มาตรการ “ลดอัตราเงินสมทบประกันสังคม 2565” เป็นส่วนหนึ่งของ 10 มาตรการช่วยเหลือประชาชน ซึ่งเป็นมาตรการช่วยเหลือประชาชนระยะสั้น ประกอบด้วยมาตรการต่างๆ ดังต่อไปนี้
10 มาตรการช่วยเหลือประชาชน
- การเพิ่มเงินช่วยเหลือเพื่อซื้อก๊าซหุงต้มสำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 3.6 ล้านคน โดยเพิ่มเงินจากเดิม 45 บาท เป็น 100 บาท/เดือน
- ส่วนลดซื้อก๊าซหุงต้ม เดือนละ 100 บาท สำหรับผู้ค่าหาบเร่แผงลอยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวนประมาณ 5,500 คน
- ช่วยเหลือค่าน้ำมันให้กับผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมการขนส่งทางบก จำนวน 157,000 คน โดยช่วยลดค่าใช้จ่ายน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ 250 บาทต่อเดือน และขอให้กรมการขนส่งทางบกกำกับราคาการให้บริการเพื่อให้พี่น้องประชาชนที่ต้องใช้บริการมอเตอร์ไซค์รับจ้างมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางเท่าเดิม
- คงราคาขายปลีกผู้ที่ใช้ก๊าซ NGV ไว้ที่ 15.59 บาทต่อกิโลกรัม
- ผู้ขับขี่แท๊กซี่มิเตอร์ภายใต้โครงการลมหายใจเดียวกัน สามารถซื้อก๊าซได้ในราคา 13.62 บาท/กิโลกรัม
- ช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้นสำหรับผู้ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน โดยลดค่า Ft ลง 22 สตางค์ต่อหน่วยในช่วงเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม
- ตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลที่ 30 บาทต่อลิตร ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2565 หลังจากนั้น รัฐบาลจะเข้าไปช่วยเหลือส่วนที่ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นครึ่งนึง
- กำกับดูแลการปรับราคาก๊าซหุงต้มในช่วงตั้งแต่เดือนเมษายน – มิถุนายน โดยใช้กองทุนน้ำมันเข้าไปช่วยลดผลกระทบจากการปรับราคาให้ไม่ขึ้นสูงเกินไป
- ลดอัตราเงินสบทบของนายจ้างและลูกจ้างที่อยู่ในระบบประกันสังคมมาตรา 33 จาก 5% เหลือ 1% เพื่อให้ลูกจ้างและนายจ้างสามารถมีกำลังในการใช้จ่ายและผู้ประกอบการสามารถมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นในการดำเนินธุรกิจในช่วงถัดไป
- ลดอัตราเงินสมทบผู้ประกันตนมาตรา 39 จาก 9% เหลือ 1.9% และลดอัตราเงินสมทบของผู้ประกันตนมาตรา 40 ลงเหลือ 42 – 180 บาทต่อเดือน