*ถ้าคุณกำลังติดตามข่าวการปรับลดอัตราส่งเงินสมทบของเดือน ก.ย. – พ.ย. 63 อ่านได้ที่ ครม.เห็นชอบหักประกันสังคมชั่วคราวเหลือเดือนละ 300 คาดเริ่ม ก.ย. นี้
นอกจาก มาตรการทางภาษี ที่ออกมาเพื่อลดผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) แล้วนั้น ล่าสุดกระทรวงแรงงานได้ออกมาตรการ ลดอัตราการส่งเงินสมทบกองทุนประกันสังคม เพื่อช่วยลดผลกระทบจากไวรัสโคโรนาเช่นกัน
สำนักงานประกันสังคม กับมาตราการปรับลดการส่งเงินสมทบประกันสังคม
วันที่ 24 มีนาคม 2563 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ มาตรการปรับลดการส่งเงินสมทบประกันสังคมให้กับลูกจ้างให้เหลือ 1% และนายจ้างให้เลือก 4% เป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยมีแผนจะเริ่มตั้งแต่มีนาคม – พฤษภาคม 2563 โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรอประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป
อัตราการถูกหักเงินสมทบประกันสังคม
ปัจจุบันมนุษย์เงินเดือน หรือลูกจ้าง จะมีเพดานถูกหักเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม อยู่ที่ 5% หรือ 750 บาทต่อเดือน (นับจากฐานเงินเดือนสูงสุด15,000 บาทต่อเดือน) และหากลดอัตราการส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมของลูกจ้างให้เหลือเพียง 1% ต่อเดือน ลูกจ้างจะถูกหักเงินเพื่อส่งกองทุนประกันสังคมเหลือเดือนละ 150 บาท นั่นหมายความว่า ในระยะเวลา 3 เดือนที่มาตรการนี้มีผลบังคับใช้ ทั้งลูกจ้างจะมีเงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้นอีกแน่นอน
สำหรับลูกจ้าง (ผู้ประกันตนตามมาตรา 33)
อัตราเดิม / เดือน | อัตราใหม่ (มาตรการชั่วคราว) / เดือน |
5% | 1% |
750 บาท | 150 บาท |
สำหรับนายจ้าง
อัตราเดิม / เดือน | อัตราใหม่ (มาตรการชั่วคราว) / เดือน |
5% | 4% |
750 บาท | 600 บาท |
สำหรับผู้ประกันตนเองโดยสมัครใจ ตามมาตรา 39
อัตราเดิม / เดือน | อัตราใหม่ (มาตรการชั่วคราว) / เดือน |
432 บาท | 86 บาท |
หมายเหตุ การปรับลดอัตราการส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม จะไม่ส่งผลกระทบต่อสิทธิ์ประโยชน์ที่ผู้ประกันตนได้รับในปัจจุบัน และมาตรการปรับลดอัตราการส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมนั้น เป็นเพียงมาตรการที่ต้องการช่วยลดค่าใช้จ่ายของนายจ้าง และผู้ประกันตนเท่านั้น
** อัปเดตข้อมูลตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 24 มีนาคม 2563
มาตรการอื่นๆ เพื่อช่วยเหลือสมาชิกกองทุนประกันสังคม
นอกจากนโยบายข้างต้น กระทรวงแรงงานยังได้เตรียมมาตรการอื่นๆ ไว้เพื่อรองรับผลกระทบที่เกิดจากการระบาดของไวรัสโคโรนาด้วย เช่น
1. นโยบายการตรวจสอบสิทธิประโยชน์จากการเป็นสมาชิกกองทุน
นโยบายสำหรับช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ ให้แก่แรงงานไทยที่เดินทางกลับจากประเทศเสี่ยงต่อติดเชื้อและแพร่ระบาด
ในกรณีที่คุณเป็นสมาชิกกองทุนประกันสังคม และเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศอย่างถูกกฎหมาย และได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 จากประเทศที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อและแพร่ระบาด กองทุนประกันสังคมจะมอบเงินช่วยเหลือเป็นจำนวน 15,000 บาท เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนจากโรคระบาดที่ประเทศนั้นๆ ได้ประกาศอย่างเป็นทางการแล้ว
2. นโยบายการจัดหางาน สำหรับตำแหน่งงานว่างทั้งหมด 81,562 อัตรา
นโยบายการจัดหางาน สำหรับตำแหน่งงานที่ว่าง ประกอบไปด้วย
- โครงการจ้างบัณฑิตจบใหม่ มาเป็นผู้ประสานงานโครงการของกระทรวงแรงงานในระดับพื้นที่
- โครงการพัฒนาทักษะฝีมือให้แรงงานในระบบ จากเดิม 70,000 คน ฝึกอบรมเพิ่มอีก 30,000 คน รวมฝึกได้ทั้งสิ้น 100,000 คน
- โครงการพัฒนาทักษะฝีมือให้แรงงานนอกระบบ จากเดิม 100,000 คน ฝึกอบรมเพิ่มอีก 20,000 คนรวมฝึกได้ทั้งสิ้น 120,000 คน
3. นโยบายสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน
โครงการสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน เป็นไปตามข้อตกลงความร่วมมือระหว่างสำนักประกันสังคม ธนาคารและสถาบันการเงิน โดยสถานประกอบการสามารถยื่นขอสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำกว่าตลาด วงเงิน 30,000 ล้านบาท และสามารถยื่นขอสินเชื่อได้จนถึงเดือนธันวาคม 2563
หมายเหตุ
มาตรการปรับลดอัตราส่งเงินสมทบประกันสังคมข้างต้น ยังเป็นเพียงมาตรการจากกระทรวงแรงงานและที่ประชุมสำนักงานประกันสังคมเท่านั้น และยังอยู่ในขั้นตอนการรอประกาศจากกระทรวงแรงงานเพื่อให้มีผลบังคับใช้
นั่นหมายความว่า ตราบเท่าที่ยังไม่มีประกาศบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ผู้ประกันตนทั้งนายจ้างและลูกจ้าง จึงยังต้องส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมในอัตราเดิมไปก่อน และหากมาตรการดังกล่าวมีผลบังคับใช้เมื่อไหร่ ทีมงาน iTAX จะรีบอัปเดตให้ผู้เสียภาษีทราบทันที
หมายเหตุ
- ข้อมูลข้างต้น เป็นข้อมูลล่าสุดตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 24 มีนาคม 2563
- แก้ไขบทความวันที่ 26 มีนาคม 2563