ภาษีวัยเกษียณ รวมประเด็นภาษีที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุ

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

ผู้สูงอายุในประเทศไทยที่มีอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไปซึ่งอยู่ในเกณฑ์วัยเกษียณแล้ว แต่ยังมีรายได้อยู่ จะมีประเด็นภาษีและสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เกี่ยวข้องมากกว่าคนวัยหนุ่มสาวทั่วไป เพื่อบรรเทาภาระภาษีในช่วงเวลาหลังเกษียณได้ โดยสรุปได้ดังนี้

สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับผู้มีอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป

1. กำไรจากการขาย RMF ไม่ต้องเสียภาษี แม้ถือ RMF แค่ 5 ปี

เนื่องจากเงื่อนไขการถือกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ที่ถูกเงื่อนไข คือ

  1. ต้องถืออย่างน้อย 5 ปี และ
  2. ไม่ขายจนกว่าจะอายุครบ 55 ปีไปแล้วเท่านั้น

ดังนั้น หากคุณอายุครบ 55 ปีแล้ว และได้ถือหน่วยลงทุนในกองทุน RMF มาครบ 5 ปีแล้ว คุณสามารถขายได้ทันทีโดยไม่ต้องเสียภาษีจากกำไรที่เกิดขึ้น

ในขณะเดียวกัน เมื่อคุณอายุครบ 55 ปีแล้วและยังมีรายได้อยู่ หากต้องการซื้อ RMF เพื่อลดหย่อนภาษีต่อไปก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน และสามารถขายได้ทันทีเมื่อถือหน่วยลงทุนในกองทุน RMF ครบ 5 ปีแล้ว

ดังนั้น เมื่อคุณอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์แล้ว การเลือกลงทุน RMF จะช่วยให้คุณใช้เวลาถือหน่วยลงทุนไว้เพียง 5 ปี ซึ่งเป็นระยะเวลาถือที่สั้นกว่าการถือกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) ซึ่งจำเป็นต้องถือไว้อย่างน้อย 10 ปี ทำให้ขายคืนได้เร็วกว่า นำเงินมาหมุนต่อได้ไวกว่า

2. ดอกเบี้ยเงินฝากประจำอย่างน้อย 1 ปี ได้รับยกเว้นภาษี ถ้าดอกเบี้ยไม่เกิน 30,000 บาท

กรณีที่มีบัญชีเงินฝากประจำที่มีระยะเวลาการฝากตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป และดอกเบี้ยฝากประจำที่จ่ายมาไม่เกิน 30,000 บาท หากในวันที่ได้รับดอกเบี้ย เจ้าของบัญชีมีอายุไม่ต่ำกว่า 55 ปีบริบูรณ์ ดอกเบี้ยเงินฝากประจำดังกล่าวจะได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีทั้งจำนวน

ทั้งนี้ สิทธิประโยชน์นี้ต้องเป็นการฝากเงินกับธนาคารในประเทศไทยเท่านั้น

3. เงินบำนาญที่จ่ายจากประกันชีวิตแบบบำนาญ

โดยปกติ เงินที่จ่ายจากสัญญาประกันชีวิตจะได้รับยกเว้นภาษี รวมถึงเงินบำนาญที่จ่ายจากประกันชีวิตแบบบำนาญด้วย

ดังนั้น หากได้ซื้อประกันชีวิตแบบบำนาญไว้ก่อนเกษียณ เมื่อถึงเวลาเริ่มได้รับเงินบำนาญตามกรมธรรม์ประกันชีวิตแบบบำนาญ เงินบำนาญดังกล่าวจึงได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษี

Bonus! สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพิ่มเติมสำหรับผู้มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป

สำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป จะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม ดังนี้

1. สิทธิได้รับยกเว้นเงินได้ 190,000 บาทแรก

ผู้มีอายุครบ 65 ปีบริบูรณ์ จะได้รับสิทธิยกเว้นเงินได้ 190,000 แรกเพื่อนำไปหักออกจากเงินได้ประเภทใดก็ได้ที่ตนได้รับระหว่างปีภาษี เช่น ถ้ามีรายได้จากเงินเดือนหรือรายได้จากการขายของตลอดทั้งปีเป็นเงินจำนวน 200,000 บาท คุณสามารถเลือกใช้สิทธิ์ยกเว้นเงินได้ 190,000 บาทนี้ออกจากรายได้ที่เกิดขึ้นตลอดทั้งปี ทำให้เหลือรายได้ที่ต้องเสียภาษีเพียง 10,000 บาทเท่านั้น

2. บำเหน็จดำรงชีพ ของข้าราชการเกษียณอายุ

ข้าราชการรับบำนาญที่มีอายุครบ 65 ปี สามารถยื่นขอเงินบำเหน็จดำรงชีพได้ ซึ่งเงินดังกล่าวจะได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษี

ข้อควรระวัง

1. เบี้ยคนชรา ไม่ได้รับยกเว้นภาษี

ผู้สูงอายุที่อายุครบ 60 ปีบริบูรณ์หลายคนจะอยู่ในเกณฑ์ขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ (เบี้ยคนชรา) โดยจะได้รับเป็นรายเดือนในอัตราตามเกณฑ์อายุดังนี้

  • 60-69 ปี รับเดือนละ 600 บาท (ปีละ 7,200 บาท)
  • 70-79 ปี รับเดือนละ 700 บาท (ปีละ 8,400 บาท)
  • 80-89 ปี รับเดือนละ 800 บาท (ปีละ 9,600 บาท)
  • 90 ปีขึ้นไป รับเดือนละ 1,000 บาท (ปีละ 12,000 บาท)

แต่อย่างไรก็ตาม เบี้ยยังชีพคนชราดังกล่าว ไม่มีกฎหมายยกเว้นภาษีให้ ผู้สูงอายุต้องนำไปยื่นภาษีและเสียภาษีตามปกติ โดยจัดอยู่กลุ่มเงินได้ประเภทอื่นๆ (เงินได้ประเภทที่ 8)

2. เงินบำเหน็จ เงินบำนาญ ไม่ได้รับยกเว้นภาษี

เงินบำเหน็จ และเงินบำนาญที่ข้าราชการบำนาญที่ได้รับ เป็นเงินได้ที่ต้องเสียภาษี โดยจัดเป็นเงินได้ประเภทเดียวกันเงินเดือน (เงินได้ประเภทที่ 1) จึงไม่ได้รับสิทธิยกเว้นไม่ต้องเสียภาษี

app icon
iTAX คำนวณและวางแผนภาษี
star star star star star
(100K+)