ตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบการ ที่ได้รับอนุมัติให้ออก ‘ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์’ และ ‘ใบรับอิเล็กทรอนิกส์’ บนระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ได้ตามกฎหมาย สามารถนำไปใช้เป็นหลักฐานสำหรับสิทธิลดหย่อนภาษี ช้อปดีมีคืน 2566 ได้
- ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) ช้อปดีมีคืน ต้องใช้
- ช้อปดีมีคืน 2566 ลดหย่อนภาษี ประกาศเป็นกฎหมายแล้ว
‘ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์’ และ ‘ใบรับอิเล็กทรอนิกส์’ ที่ถูกต้อง จะต้องออกโดยผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาตจากกรมสรรพากรแล้วเท่านั้น
ปัจจุบันการออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (ใบเสร็จรับเงิน) ยังคงเป็นภาคสมัครใจ แต่ต้องได้รับอนุญาตอธิบดีกรมสรรพากรก่อนเท่านั้น จึงจะมีสิทธิออกเป็นแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ให้ลูกค้าได้ หากออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-tax invoice) หรือใบเสร็จรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-receipt) เองโดยไม่ได้ขออนุญาตก่อน จะไม่นับเป็นใบกำกับภาษีที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ดังนั้น หากต้องการใช้สิทธิลดหย่อนช้อปดีมีคืน 2566 เพื่อรับสิทธิลดหย่อนสูงสุด 40,000 บาท จึงจำเป็นต้อง ตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบการ ที่ได้รับอนุมัติจากกรมสรรพากรแล้ว เพื่อให้สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้อย่างเต็มที่
ช่องทาง ตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบการ ที่ได้รับอนุมัติให้ออก ‘ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์’ และ ‘ใบรับอิเล็กทรอนิกส์’ ได้ตามกฎหมายบนระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt และระบบ e-Tax Invoice by Email
- เว็บไซต์ etax.rd.go.th ของกรมสรรพากร » https://etax.rd.go.th/etax_staticpage/app/#/index/registered
- เว็บไซต์ e-Tax Invoice by Email ของกรมสรรพากร » https://www.rd.go.th/27659.html
ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ คืออะไร?
ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-tax invoice) คือ หลักฐานที่จำเป็นต้องใช้สำหรับการใช้สิทธิลดหย่อน ช้อปดีมีคืน 2566 เพื่อรับค่าลดหย่อนสูงสุด 40,000 บาท โดยเป็นใบกำกับภาษีรูปแบบหนึ่งที่อยู่ในรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อใช้เป็นหลักฐานแสดงจำนวน ภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่คำนวณได้จากมูลค่าสินค้าหรือบริการ โดยไม่ต้องออกในรูปแบบกระดาษ โดยปัจจุบันประเทศไทยมี 2 ระบบ ได้แก่ ระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt และระบบ e-Tax Invoice by email
ลักษณะของใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกต้อง
โดยปกติ ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์จะต้องประกอบด้วยรายการต่างๆ ครบถ้วนเหมือนใบกำกับภาษีแบบกระดาษ
องค์ประกอบของใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์
โดยปกติ ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ จะต้องประกอบด้วยรายการต่างๆ ครบถ้วนเหมือนใบกำกับภาษีแบบกระดาษ ได้แก่
- คำว่า “ใบกำกับภาษี” ในที่ที่เห็นได้เด่นชัด
- ชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ออกใบกำกับภาษี
- ชื่อ ที่อยู่ ของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ
- หมายเลขลำดับของใบกำกับภาษี (และหมายเลขลำดับของเล่ม ถ้ามี)
- ชื่อ ชนิด ประเภท ปริมาณ และมูลค่าของสินค้าหรือของบริการ
- จำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่คำนวณจากมูลค่าของสินค้าหรือของบริการ โดยให้แยกออกจากมูลค่าของสินค้า/บริการให้ชัดแจ้ง
- วัน เดือน ปี ที่ออกใบกำกับภาษี
- ข้อความอื่นที่อธิบดีกำหนด
วิธีตรวจสอบความถูกต้องของไฟล์ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์
ลูกค้าที่ได้รับใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์สามารถตรวจสอบความถูกต้องของไฟล์ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับจากผู้ขายได้ที่เว็บไซต์ สพธอ. https://validation.teda.th/webportal/v2/#/validate โดยอัพโหลดไฟล์ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับเพื่อตรวจสอบ
มาตรการ “ช้อปดีมีคืน 2566” ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 40,000 บาท ต้องใช้ ‘ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์’ และ ‘ใบรับอิเล็กทรอนิกส์’
มาตรการช้อปดีมีคืน 2566 กำหนดให้ค่าซื้อสินค้าหรือบริการสามารถนำมาใช้เป็นค่าลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 40,000 บาท (รวม VAT แล้ว) โดยแบ่งสิทธิลดหย่อนตามค่าซื้อสินค้าและบริการ เป็น 2 ส่วน ดังนี้
- ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการ จำนวน 30,000 บาทแรก ที่มีหลักฐานเป็นใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษีแบบกระดาษหรืออิเล็กทรอนิกส์
- ค่าซื้อสินค้าหรือบริการ อีกจำนวน 10,000 บาท ที่มีหลักฐานเป็นใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษีรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น
ตัวอย่างที่ 1
ซื้อคอมพิวเตอร์ราคา 40,000 บาท (รวม VAT แล้ว) โดยได้รับใบกำกับภาษีในรูปแบบกระดาษ จะใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดเพียง 30,000 บาท
สาเหตุเนื่องจากกรณีนี้จะได้สิทธิลดหย่อนจากวงเงิน 30,000 แรกที่มีหลักฐานเป็นใบกำกับภาษีแบบกระดาษหรืออิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น แต่จะไม่ได้สิทธิอีก 10,000 บาท เนื่องจากไม่ได้รับใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์
ตัวอย่างที่ 2
ซื้อคอมพิวเตอร์ราคา 40,000 บาท (รวม VAT แล้ว) โดยได้รับใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ จะใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 40,000 บาท
สาเหตุเนื่องจากกรณีนี้จะได้สิทธิลดหย่อนจากทั้งวงเงิน 30,000 แรกที่มีหลักฐานเป็นใบกำกับภาษีแบบกระดาษหรืออิเล็กทรอนิกส์ และอีก 10,000 บาท จากใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์
ช่วงเวลาที่ได้สิทธิลดหย่อนช้อปดีมีคืน 2566
ต้องซื้อสินค้าและบริการตั้งแต่ 1 มกราคม – 15 กุมภาพันธ์ 2566 (รวมเวลา 46 วัน)
สินค้าและบริการที่ร่วมโครงการช้อปดีมีคืน 2566
- สินค้าและบริการที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
- สินค้าท้องถิ่น (OTOP)
- หนังสือ (รวมถึง e-book)
สินค้าและบริการที่ไม่อยู่ในเกณฑ์ลดหย่อนภาษีได้
ค่าซื้อสินค้าและบริการต่อไปนี้ไม่อยู่ในเกณฑ์ลดหย่อนภาษีช้อปดีมีคืน 2566 ได้
- ค่าซื้อสุรา เบียร์ ไวน์
- ค่าซื้อยาสูบ
- ค่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ
- ค่าซื้อหนังสือพิมพ์และนิตยสาร (หนังสือทั่วไปยังใช้ลดหย่อนภาษีได้)
- ค่าบริการหนังสือพิมพ์และนิตยสารที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต (หนังสือ e-book ทั่วไปยังใช้ลดหย่อนภาษีได้)
- ค่าบริการจัดนำเที่ยวที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว และมัคคุเทศก์
- ค่าที่พักในโรงแรมที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม
- ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า
- ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ ค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต
- ค่าบริการสำหรับบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการระยะยาว ซึ่งเริ่มต้นก่อนวันที่ 1 มกราคม 2566 หรือสิ้นสุดหลังวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 และ
- ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย เช่น เบี้ยประกันชีวิต ประกันอุบัติเหตุ ประกันรถยนต์
นอกจากนี้ สินค้าและบริการต่อไปนี้ก็ไม่เข้าเกณฑ์ใช้สิทธิลดหย่อนช้อปดีมีคืนได้
- ทองคำแท่ง
- ค่ารักษาพยาบาล
- ค่าทำศัลยกรรม
- ผักผลไม้สด
- เนื้อสัตว์สด