สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเตรียมเพิ่มช่องทาง ขายสลากกินแบ่งรัฐบาล 80 บาท ผ่านช่องทางออนไลน์ บนมาร์เก็ตเพลสในแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” แก้ปัญหาขายสลากเกินราคา คาดเริ่มจำหน่ายงวดแรกในเดือนพฤษภาคม 2565
27 มกราคม 2565 – คณะกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เห็นชอบแนวทางแก้ปัญหาสลากฯ เกินราคา ซึ่งผู้บริโภคจะสามารถซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล ฉบับละ 80 บาท ผ่านช่องทางออนไลน์ บนแอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’ โดยสแกนภาพสลากฯ ลงบนแพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์ หรือมาร์เก็ตเพลส บนแอปเป๋าตัง ผู้ซื้อสามารถกดเลขที่ต้องการแล้วชำระเงินผ่านแอปฯ และหากถูกรางวัลสามารถแจ้งให้โอนเงินรางวัลเข้าบัญชีได้ทันทีโดยไม่ต้องเดินทางมาขึ้นรางวัลด้วยตัวเอง
เริ่ม ขายสลากกินแบ่งรัฐบาล 80 บาท บนแอปเป๋าตัง งวดแรก 2 พ.ค. 2565
นายลวรณ แสงสนิท ประธานคณะกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า สำนักงานสลากฯ เตรียมนำเสนอแนวทาง ขายสลากกินแบ่งรัฐบาล 80 บาท ต่อสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ และคณะกรรมการแก้ปัญหาสลากฯ เกินราคา ในสิ้นเดือนมกราคม 2565 คาดว่าจะเริ่มจำหน่ายบนมาร์เก็ตเพลสในงวดวันที่ 2 พฤษภาคม 2565 ภายใต้ชื่อ “แพลตฟอร์มจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล (Digital Lottery)”
พร้อมย้ำว่า ผู้ค้าสลากฯ รายย่อยในระบบสั่งซื้อสั่งจองยังสามารถแบ่งสลากฯ เพื่อเดินขายสลากฯ แบบใบตามเดิม หรือเปิดแท็ปเล็ตให้ผู้บริโภคเลือกซื้อจากมาร์เก็ตเพลสได้ ซึ่งสำนักงานสลากฯ ไม่มีระบบเหมาซื้อสลากฯ เพื่อการรับประกันรายได้ว่าจะขายได้หมดเหมือนแพลตฟอร์มเอกชน แต่เปิดให้ผู้ค้าสลากฯ ลดราคาให้ต่ำกว่า 80 บาทได้ เพื่อลดภาระผู้ค้ากรณีใกล้ถึงเวลาออกรางวัล พร้อมปรับระบบจัดพิมพ์รหัสตรวจสอบโควตาผู้ค้าฯ หรือ Secure Code แบบใหม่ เพื่อตรวจสอบและตัดสิทธิ หากพบสลากฯ ถูกขายให้แพลตฟอร์มออนไลน์เอกชน
ทั้งนี้ ผู้ซื้อจะมีเอกสารหลักฐานทางอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมภาพสลากกินแบ่งเป็นหลักฐาน โดยสำนักงานสลากฯ จะจัดเก็บข้อมูลไว้ โดยลอตเตอรี่ใบที่ตกลงซื้อขายแล้วจะไม่สามารถนำไปขายต่อได้อีก และเปลี่ยนสิทธิ์ไม่ได้ เพราะมีเพียงใบเดียวเท่านั้น
นายลวรณ กล่าวว่า การขายผ่านมาร์เก็ตเพลส จะต้องเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) พิจารณารายละเอียด ข้อกฎหมาย ว่าไม่ใช่เป็นการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่เป็นการเพิ่มช่องทางการจำหน่าย เพราะสลากยังพิมพ์ 100 ล้านฉบับเป็นแบบใบเหมือนเดิม หากไม่ติดขัดก็สามารถดำเนินการได้ทันทีในงวดเดือนพฤษภาคม 2565 เช่นกัน
จะเร่งพิจารณาโควตาในโครงการผู้ค้าสลากฯ 80 บาท (GLO Official Seller) 1,000 อำเภอ
นายลวรณ กล่าวอีกว่า สำนักงานสลากฯ จะเร่งพิจารณาผู้ได้รับสิทธิโควตาในโครงการผู้ค้าสลากฯ 80 บาท (GLO Official Seller) จากปัจจุบันมีผู้สมัคร 4,800 ราย ให้เหลือ 1,000 ราย เพื่อให้มีจุดจำหน่ายสลากฯ 80 บาท 1,000 อำเภอ อำเภอละ 1 แห่ง เริ่มงวดวันที่ 2 พ.ค.2565 เป็นต้นไป
ขณะเดียวกัน สำนักงานสลากฯ ยังคงเปิดลงทะเบียนผู้ค้าสลากฯ รายย่อยในระบบสั่งซื้อสั่งจองถึงวันที่ 31 ม.ค.นี้ ซึ่งตั้งแต่เปิดลงทะเบียนวันที่ 1-27 ม.ค.65 มีผู้ลงทะเบียนแล้ว 878,454 ราย ถือว่าเกินความคาดหมาย คาดว่าจะมีผู้สมัครทั้งสิ้น 1 ล้านราย ซึ่งสูงกว่าประเมินไว้ที่ 400,000 – 500,000 ราย ก่อนเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกและจับสลากฯ ต่อไป
นอกจากนี้ สำนักงานสลากฯ ได้ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ติดตามและเอาผิดผู้ค้าสลากฯ รายย่อยที่ขายต่อสลากฯ ที่รับจากที่ทำการไปรษณีย์อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการขายสลากฯ รวมชุดให้นายทุน คาดว่าการดำเนินมาตรการครั้งนี้จะช่วยให้ผู้บริโภคมีโอกาสเข้าถึงสลากฯ 80 บาทมากขึ้น และบรรเทาปัญหารวมชุดสลากฯ ซึ่งเป็นต้นเหตุสลากฯ เกินราคา
ปรับราคาสลากฯ ต่ำกว่า 80 บาทได้ หากจำเป็นต้องระบายสลาก
ส่วนกรณีใกล้วันออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล ผู้ฝากขายสลากบนแพลตฟอร์ม สามารถปรับลดราคาขายสลากต่ำกว่า 80 บาทได้ เพื่อระบายสลากที่เหลือบนแพลตฟอร์มดิจิทัล โดยผู้ที่ได้รับโควตาสลาก ต้องลงทะเบียนการขายผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลของสำนักงานสลากฯ และเปิดบัญชีกับธนาคารกรุงไทย โดยมีแอปพลิเคชันถุงเงิน ส่วนผู้ซื้อจะต้องซื้อผ่านแอปเป๋าตังเท่านั้น เนื่องจากธนาคารกรุงไทยจะเป็นผู้ทำระบบทั้งหมดให้กับสำนักงานสลากฯ
สำนักงานสลากฯ เอาจริง มาตรการตัดสิทธิ์-ตัดโควต้า
ประธานคณะกรรมการสำนักงานสลากฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงานสลากฯ จะร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้มงวดการตรวจสอบการรับสลากกินแบ่งรัฐบาล ณ ที่ทำการไปรษณีย์ไทยทุกแห่ง เพื่อมิให้ผู้ได้รับโควตาขายยกเล่ม เพราะผิดเงื่อนไข หากพบกระทำความผิดจะตัดสิทธิ์และตัดโควตาทันที จากนั้นจะขึ้นบัญชีดำ ทำให้ไม่สามารถเป็นผู้ขายสลากฯ กับสำนักงานสลากฯได้อีกต่อไป
“สำนักงานสลากฯใช้มาตรการเหล่านี้ เพื่อแก้ปัญหาสลากเกินราคา 80 บาท หากยังแก้ไม่ได้ก็จะมีมาตรการต่อไปเรื่อยๆ เชื่อว่าการเปิดลงทะเบียนเพื่อหาผู้ขายตัวจริง โครงการสลาก 80 บาท การขายแพลตฟอร์มดิจิทัลและการเข้มงวด ณ ที่ทำการไปรษณีย์ จะค่อยๆเปลี่ยนโฉมการขายลอตเตอรี่ของไทย ซึ่งจะเห็นได้ชัดเดือนพฤษภาคม 2565 นี้”
ทั้งนี้ การฝากขายสลากผ่านมาร์เก็ตเพลส ตัวแทนจะต้องเลือกเพียงครั้งเดียวว่า จะฝากขาย หรือต้องการรับสลากใบไปจำหน่ายเอง หากต้องการฝากขาย ก็จะมีการสแกนภาพสลาก ไปปรากฏอยู่บนมาร์เก็ตเพลส และ ไอแพด ของตัวแทนในกรณีที่ต้องการร่วมเดินขายเองด้วย ซึ่งข้อมูลจะมีความเชื่อมโยงกัน เมื่อมีการขายออก ระบบก็จะตัดออก สลาก 1 ใบขายได้เพียงครั้งเดียว ไม่สามารถนำมาขายซ้ำได้อีก โดยซื้อขายผ่านระบบเป๋าตัง และถุงเงินของธนาคารกรุงไทย
“การรับจ่ายก็จะมีความสะดวกขึ้น คนซื้อสามารถเลือกได้ว่าจะซื้อจากแพลตฟอร์มของสำนักงานสลาก หรือ ไปซื้อกับผู้ค้า ที่อาจจะเดินขายผ่านไอแพด ก็จะมีภาพสลากใบเดียวกันอยู่ เมื่อขายได้สลากใบนั้นก็จะหายไปจากระบบ ไม่ซ้ำซ้อน ผู้ซื้อก็จะมีใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์ ที่เป็นหลักฐานการซื้อที่ระบบส่งให้ ในกรณีที่ถูกรางวัล เงินก็จะถูกโอนเข้าสู่บัญชี ไม่ต้องมีปัญหาว่าสลากใบนี้เป็นของใครอีก” นายลวรณ กล่าว
นายลวรณ กล่าวว่า จะนำผลการประชุมทั้งหมด เข้าหารือกับ คณะกรรมการแก้ไขปัญหาผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนด ที่มีนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ ในวันที่ 31 มกราคม 2565 นี้
