สิ่งที่ผู้เสียภาษีสนใจกันในช่วงนี้ คงหนีไม่พ้นข่าวลือว่าจะมี กองทุนลดหย่อนภาษีตัวใหม่ มาแทนที่ กองทุน LTF ที่จะกำลังจะหมดอายุในปี พ.ศ. 2562 นี้ ส่วนข่าวนี้จะมีโอกาสเป็นจริงแค่ไหน? และจะมีรายละเอียดอะไรบ้าง iTAX หาคำตอบมาให้แล้ว
ทำความรู้จัก กองทุนหุ้นยั่งยืน (กองทุน SEF)
กองทุนหุ้นยั่งยืน หรือ กองทุน SEF (Sustainable Equity Fund) คือ กองทุนที่สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ซึ่งเป็นภาคเอกชนนำเสนอต่อกระทรวงการคลังในรูปแบบของกองทุนใหม่ เพื่อใช้ทดแทนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่กำลังจะหมดอายุสิ้นปี พ.ศ. 2562 โดยมีจุดประสงค์หลักคือ ต้องการให้กองทุน SEF ต้องการเพิ่มทางเลือกในการลดหย่อนภาษีให้แก่ผู้เสียภาษีที่มีรายได้ปานกลาง และผู้มีรายได้น้อย
ซึ่งกองทุน SEF จะช่วยกระตุ้นให้ผู้มีรายได้ปานกลางและรายได้น้อย หันมาออมเงินระยะยาวมากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันกองทุน LTF มียอดลงทุนเพียง 2 ล้านคนเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรทั้งประเทศ กองทุน SEF จึงมีขึ้นเพื่อสนับสนุนการออมเงินเพื่อเตรียมตัวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และช่วยลดความเหลื่อมล้ำตามจุดประสงค์ของกองทุน LTF เดิม โดยไม่สร้างภาระให้แก่งบประมาณมากนัก
สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เปิดเผยว่า จากผลการศึกษาที่ผ่านมาพบว่า ผู้มีรายได้สูงได้ผลประโยชน์จากกองทุน LTF จำนวนมาก ซึ่งเป็นการสร้างภาระให้แก่งบประมาณมากเกินไป
ข้อเสนอกองทุนหุ้นยั่งยืน (กองทุน SEF) มีอะไรบ้าง?
1. ปรับวงเงินการลงทุนเพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษี
เสนอให้ค่าซื้อกองทุน SEF ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30% ของรายได้ สูงสุดไม่เกิน 250,000 บาท เพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำ (เดิม LTF ใช้สิทธิลดหย่อนได้ 15% ของรายได้ สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท)
2. ปรับนโยบายการลงทุนของกองทุน
มีการเสนอให้กำหนดนโยบายสัดส่วนการลงทุนของกองทุน SEF ให้ลงทุนอย่างน้อย 65% ในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ (Infrastructure Fund) กลุ่มหุ้นยั่งยืนที่ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และมีธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance หรือ ESG) รวมถึงหุ้นเอสเอ็มอี
3. ระยะเวลาการถือครอง
แม้เงื่อนไขและนโยบายการลงทุนจะเปลี่ยนไป แต่ระยะเวลาการถือครองกองทุน SEF เพื่อลดหย่อนภาษียังเป็น 7 ปี ปฏิทินเหมือนกองทุน LTF (อ่านเพิ่มเติมได้ที่: กองทุนรวมหุ้นระยะยาว)
กองทุนหุ้นยั่งยืน (SEF) กับความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน
ตอนนี้ผู้เสียภาษีหลายคนอาจจะเข้าใจผิดไปแล้วว่า กองทุนหุ้นยั่งยืน (SEF) จะสามารถนำมาใช้ลดหย่อนภาษีได้ภายในปี พ.ศ. 2563 แน่นอนแล้ว แต่ในความเป็นจริง
กองทุนหุ้นยั่งยืน (SEF) ยังอยู่ภายในขั้นตอนการหารือเท่านั้น
ข้อเท็จจริงคือ
เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 62 คุณไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ในฐานะประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ได้เข้าหารือ และยื่นข้อเสนอการจัดตั้ง กองทุนหุ้นยั่งยืน (SEF) ทดแทน กองทุนรวม LTF ที่จะสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ถึงสิ้นปีนี้ แต่ยังไม่ได้เกิดขึ้นจริง และไม่ใช่นโยบายจากรัฐบาล ซึ่งกองทุนหุ้นยั่งยืน (SEF) ยังอยู่ภายในขั้นตอนพิจารณาและศึกษารายละเอียดของกระทรวงการคลังเท่านั้น
สรุป ปี 2562 LTF ยังใช้ลดหย่อนภาษี ได้เหมือนเดิม ส่วน SEF ยังไม่เกิดขึ้น
- หากซื้อกองทุน LTF ภายในปี พ.ศ. 2562 ยังสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษี ในปีภาษี 2562 (ยื่นต้นปี พ.ศ. 2563) เหมือนเดิม
- หากคุณซื้อกองทุน LTF ในปี พ.ศ. 2562 จะยังต้องถือกองทุนไว้ 7 ปีปฏิทินเหมือนเดิม
- ในกรณีที่คุณขายกองทุน LTF จะต้องยื่นภาษีเงินได้ประจำปีเหมือนเดิม ซึ่งหากขายถูกต้องตามเงื่อนไขคุณจะยังได้รับการยกเว้นภาษีเหมือนเดิม แต่หากขายผิดเงื่อนไขคุณจะต้องนำเงินที่ขายกองทุนได้มารวมคำนวณภาษีด้วย
ย้ำอีกครั้งว่า ณ ปัจจุบัน กองทุนหุ้นยั่งยืน (SEF) ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาและศึกษารายละเอียดเท่านั้น ส่วนจะมีการประกาศให้ กองทุนหุ้นยั่งยืน (SEF) สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้เมื่อไหร่ iTAX จะรีบแจ้งข่าวให้ผู้เสียภาษีทราบต่อไป
ทั้งนี้ ผู้เสียภาษีสามารถค้นหากองทุนลดหย่อนภาษีที่น่าสนใจได้ที่ iTAX shop หรือจะคำนวณภาษีผ่านแอป iTAX ก็ได้เช่นกัน (โหลดฟรีทั้ง iOS และ Android) รับรองว่า คุณจะประหยัดภาษีได้มากกว่าเดิมแน่นอน!
อ้างอิง :