เที่ยวเมืองรอง 2567 ลดหย่อนภาษี 15,000 บาท สำหรับค่าบริการท่องเที่ยวมัคคุเทศก์ (ค่าแพ็คเกจทัวร์) ค่าที่พักในโรงแรม รีสอร์ท หรือโฮมสเตย์ภายในจังหวัดรอง 55 จังหวัด ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม – 30 พฤศจิกายน 2567 โดยต้องใช้หลักฐานการลดหย่อนภาษีเป็น E-tax invoice และ E-receipt เท่านั้น โดยให้รอประกาศมาตรการ เที่ยวเมืองรอง 2567 เป็นกฎหมายต่อไปอีกครั้ง คาดออกมาในรูปแบบกฎกระทรวง
- ลงทะเบียน ลดค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า 2567 ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
- ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-tax invoice) คืออะไร?
ครม. เห็นชอบมาตรการทางภาษี “เที่ยวเมืองรอง 2567” กระตุ้นเศรษฐกิจ
4 มิถุนายน 2567 – นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการทางภาษีกระตุ้นการสร้างเม็ดเงินจากการท่องเที่ยว ในเมืองรอง 55 จังหวัดช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว (Low Season) เพื่อเป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวและจัดสัมมนาในเมืองรอง ในช่วงที่เข้าสู่ช่วงโลว์ซีซั่นของประเทศไทย โดยเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในส่วนของประชาชนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดาและภาคธุรกิจที่เป็นนิติบุคคล
ทั้งนี้คาดว่ามาตรการนี้จะสูญเสียรายได้ตามที่กระทรวงการคลังประเมิน 1,500 ล้านบาท แต่คาดว่ามูลค่าที่จะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจจะได้มากกว่า 1,500 ล้านบาท
เปิด 2 มาตรการทางภาษี “เที่ยวเมืองรอง 2567” ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ตามที่ ครม.มีมติอนุมัติมาตรการทางภาษี เพื่อกระตุ้นการสร้างเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวในเมืองรองช่วง Low Season ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ 2 มาตรการ ประกอบด้วย
1. ค่าลดหย่อนเที่ยวเมืองรอง 15,000 บาท – ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
สำหรับบุคคลธรรมดา ได้สิทธิค่าลดหย่อนเที่ยวเมืองรอง โดยสามารถนำค่าบริการท่องเที่ยวมัคคุเทศก์ (ค่าแพ็คเกจทัวร์) ค่าที่พักในโรงแรม รีสอร์ท หรือโฮมสเตย์ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม – 30 พฤศจิกายน 2567 ไปใช้เป็นค่าลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท สำหรับจังหวัดรอง 55 จังหวัด
2. มาตรการภาษีกระตุ้นสัมมนาในประเทศ – ภาษีเงินได้นิติบุคคล
สำหรับบริษัทและห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สามารถนำรายจ่ายค่าห้องสัมมนา ค่าห้องพัก ค่าขนส่ง หรือรายจ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องในการอบรมสัมมนาภายในประเทศที่จัดขึ้นให้แก่ลูกจ้าง หรือค่าบริการของผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวเพื่อการอบรมสัมมนาดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม – 30 พฤศจิกายน 2567 ในอัตราพิเศษดังนี้
- หักรายจ่ายได้ 2 เท่า สำหรับการอบรมสัมมนาที่จัดในพื้นที่ “55 จังหวัดท่องเที่ยวรอง” หรือในเขตพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นใดที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด
- หักรายจ่ายได้ 1.5 เท่า สำหรับการอบรมสัมมนาที่จัดในท้องที่อื่นนอกจากท้องที่ตามข้อ 1
- ในกรณีที่การสัมมนาเกิดขึ้นในท้องที่ตามข้อ 1 และข้อ 2 ต่อเนื่องกัน ให้หักรายจ่ายที่สามารถแยกได้ว่าเกิดขึ้นในท้องที่ใดตามข้อ 1 หรือข้อ 2 และถ้าแยกไม่ได้ให้หัก 1.5 เท่าของรายจ่ายตามที่จ่ายจริง
ต้องใช้หลักฐานการรับสิทธิประโยชน์เป็น e-Tax Invoice & e-Receipt เท่านั้น
การใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีของทั้ง 2 มาตรการดังกล่าวจะต้องใช้ ใบกำกับภาษี ใบเสร็จหรือหลักฐานการจ่ายเงินจากผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม โฮมสเตย์ หรือที่พักที่ระบุชื่อผู้จ่ายเงิน พร้อมวันที่และจังหวัดที่พัก รวมถึงจำนวนเงิน ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt) ด้วย
รายชื่อ 55 เมืองรองที่ใช้สิทธิ์ เที่ยวเมืองรอง 2567 ได้
ภาคใต้
- ชุมพร (มีเที่ยวบิน)
- ตรัง (มีเที่ยวบิน)
- นครศรีธรรมราช (มีเที่ยวบิน)
- นราธิวาส (มีเที่ยวบิน)
- ปัตตานี
- พัทลุง
- ยะลา
- ระนอง (มีเที่ยวบิน)
- สตูล
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- กาฬสินธุ์
- ชัยภูมิ
- นครพนม (มีเที่ยวบิน)
- บึงกาฬ
- บุรีรัมย์ (มีเที่ยวบิน)
- มหาสารคาม
- มุกดาหาร
- ยโสธร
- ร้อยเอ็ด (มีเที่ยวบิน)
- เลย (มีเที่ยวบิน)
- ศรีสะเกษ
- สกลนคร (มีเที่ยวบิน)
- สุรินทร์
- หนองคาย
- หนองบัวลำภู
- อุดรธานี (มีเที่ยวบิน)
- อุบลราชธานี (มีเที่ยวบิน)
- อำนาจเจริญ
ภาคเหนือ
- กำแพงเพชร
- เชียงราย (มีเที่ยวบิน)
- ตาก (มีเที่ยวบิน)
- นครสวรรค์
- น่าน (มีเที่ยวบิน)
- พะเยา
- พิจิตร
- พิษณุโลก (มีเที่ยวบิน)
- เพชรบูรณ์
- แพร่
- แม่ฮ่องสอน (มีเที่ยวบิน)
- ลำปาง (มีเที่ยวบิน)
- ลำพูน
- สุโขทัย (มีเที่ยวบิน)
- อุตรดิตถ์
- อุทัยธานี
ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก
- จันทบุรี
- ชัยนาท
- ตราด (มีเที่ยวบิน)
- นครนายก
- ปราจีนบุรี
- ราชบุรี
- ลพบุรี
- สมุทรสงคราม
- สระแก้ว
- สิงห์บุรี
- สุพรรณบุรี
- อ่างทอง
หมายเหตุ: จังหวัดหลักที่ไม่อยู่ในเกณฑ์ใช้สิทธิลดหย่อนเที่ยวเมืองรองได้ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร กระบี่ กาญจนบุรี ขอนแก่น ฉะเชิงเทรา ชลบุรี เชียงใหม่ นครปฐม นครราชสีมา นนทบุรี ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ พระนครอยุธยา พังงา เพชรบุรี ภูเก็ต ระยอง สมุทรสาคร สมุทรปราการ สงขลา สุราษฎร์ธานี สระบุรี