อุทธรณ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566 กรณีไม่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถยื่นขอให้ทบทวนการพิจารณาอีกครั้งโดยอุทธรณ์ด้วยตนเองผ่านเว็บไชต์หรือติดต่อหน่วยงานรับลงทะเบียน
- วันหยุด 2566 ปฏิทินวันหยุดราชการ วันหยุดยาว (อัปเดตล่าสุด)
- ลงทะเบียน เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 สำหรับประชาชนทั่วไป
อุทธรณ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566 กรณีไม่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติ ยื่นอุทธรณ์หรือขอตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องได้
เมื่อประกาศผลการพิจารณาคุณสมบัติในวันที่ 1 มีนาคม 2566 แล้วพบว่า ไม่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566 คุณสามารถดำเนินการต่อไปนี้ได้
1. ยื่น อุทธรณ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566
โดยสามารถเลือกดำเนินการได้ 2 วิธี คือ
- อุทธรณ์ด้วยตนเองผ่านเว็บไชต์
- ติดต่อหน่วยงานรับลงทะเบียนเพื่อยื่นอุทธรณ์
2. ติดต่อหน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติที่ไม่ผ่านเพื่อตรวจสอบ/ขอแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง
หลังจากยื่นอุทธรณ์แล้ว ผู้ไม่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติต้องติดต่อหน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติที่ไม่ผ่านเพื่อตรวจสอบ/ขอแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 1 พฤษภาคม 2566
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2566 เป็นต้นไปและจะต้องแก้ไขให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 1 พฤษภาคม 2566
เอกสารสำหรับตรวจสอบผล และการอุทธรณ์ โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565
1. กรณีตรวจสอบผล / ยื่นอุทธรณ์ผ่านเว็บไซต์
ทั้งนี้ สามารถดำเนินการผ่านเว็บไซค์ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องใช้เอกสาร
2. กรณีตรวจสอบผล / ยื่นอุทธรณ์ผ่านหน่วยรับลงทะเบียน
- คลังจังหวัด
- ที่ว่าการอำเภอ
- สนง.เขต กทม.
- ศาลาว่าการเมืองพัทยา
- ธ.กรุงไทย
- ธ.ออมสิน
- ธ.ก.ส.
กรณีดำเนินการด้วยตนเอง
- บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ลงทะเบียน
กรณีมอบอำนาจ
ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินทางมาอุทธรณ์ได้เองสามารถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นมาลงทะเบียนแทนได้ โดยใช้เอกสาร ดังนี้
- บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ลงทะเบียน
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนพร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง
- หนังสือมอบอำนาจ (ดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์โครงการฯ)
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ได้รับมอบอำนาจพร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง
- สำเนาบัตรประจำตัวคนพิการ (ถ้ามี) พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง หรือใบรับรองแพทย์ (ถ้ามี)
กรณีผ่านการพิจารณาคุณสมบัติ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566
ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป สามารถเดินทางไปยืนยันตัวตนผ่าน 3 หน่วยงาน ได้แก่
- ธนาคารกรุงไทย – ให้บริการยืนยันตัวตน ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2566 โดยยังไม่มีกำหนดวันสิ้นสุดการให้บริการ
- ธนาคารออมสิน – ให้บริการยืนยันตัวตนเป็นเวลา 180 วัน นับจากวันที่ประกาศผลการพิจารณาคุณสมบัติ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 27 สิงหาคม 2566
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) – ให้บริการยืนยันตัวตนเป็นเวลา 180 วัน นับจากวันที่ประกาศผลการพิจารณาคุณสมบัติ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 27 สิงหาคม 2566
เอกสารสำหรับการ ยืนยันตัวตน “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” 2566
ผู้ลงทะเบียนที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติ ต้องเดินทางไปยืนยันตัวตนผ่านหน่วยงานที่กำหนด ดังนี้
- ธ.กรุงไทย – ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป
- ธ.ออมสิน – วันที่ 1 มีนาคม – 27 สิงหาคม 2566
- ธ.ก.ส. – วันที่ 1 มีนาคม – 27 สิงหาคม 2566
1. กรณีเดินทางมาด้วยตนเอง
- บัตรประจำตัวประชาชน (ผู้ลงทะเบียน)
- ใบสำคัญการหย่า หรือ ใบมรณะบัตร หรือ หนังสือรับรองการตาย หรือทะเบียนบ้านที่มีการจำหน่ายการตาย (เฉพาะผู้ผ่านเกณฑ์แบบมีเงื่อนไข)
2. กรณีมอบอำนาจ
ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินทางมายืนยันตัวตนได้เอง สามารถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นมายืนยันตัวตนแทนได้ โดยใช้เอกสาร ดังนี้
- บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ลงทะเบียน
- ใบสำคัญการหย่า หรือ ใบมรณะบัตร หรือ หนังสือรับรองการตาย หรือทะเบียนบ้านที่มีการจำหน่ายการตาย (เฉพาะผู้ผ่านเกณฑ์แบบมีเงื่อนไข)
- หนังสือมอบอำนาจ (ดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์โครงการฯ)
- บัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ
- สำเนาบัตรประจำตัวคนพิการ (ถ้ามี) หรือใบรับรองแพทย์ (ถ้ามี) ให้นำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่หน่วยงานยืนยันตัวตน
หมายเหตุ: ผู้ได้รับสิทธิจะต้องลงทะเบียนพร้อมเพย์ ด้วยหมายเลขประจำตัวประชาชนเพื่อรับสิทธิสวัสดิการ
ตารางช่วงเวลา ยืนยันตัวตน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และการได้รับสิทธิ
ช่วงเวลายืนยันตัวตน
- 1 มีนาคม – 26 มีนาคม 2566 เริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่ 1 เมษายน 2566 และได้รับสิทธิตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 เป็นต้นไป
- 27 มีนาคม – 26 เมษายน 2566 เริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2566 และได้รับสิทธิย้อนหลังไม่เกิน 3 เดือน นับจากเดือนแรกที่เริ่มใช้สิทธิได้ (สิทธิย้อนหลังจะให้เฉพาะวงเงินการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและสังคม (ร้านธงฟ้าฯ) เท่านั้น)
- 27 เมษายน – 26 พฤษภาคม 2566 เริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2566 และได้รับสิทธิย้อนหลังไม่เกิน 3 เดือน นับจากเดือนแรกที่เริ่มใช้สิทธิได้ (สิทธิย้อนหลังจะให้เฉพาะวงเงินการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและสังคม (ร้านธงฟ้าฯ) เท่านั้น)
- 27 พฤษภาคม – 26 มิถุนายน 2566 เริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2566 และได้รับสิทธิย้อนหลังไม่เกิน 3 เดือน นับจากเดือนแรกที่เริ่มใช้สิทธิได้ (สิทธิย้อนหลังจะให้เฉพาะวงเงินการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและสังคม (ร้านธงฟ้าฯ) เท่านั้น)
- 27 มิถุนายน 2566 เป็นต้นไป เริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2566 และไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง โดยจะได้รับสิทธิเฉพาะเดือนที่กระทรวงการคลังดำเนินการตั้งวงเงินให้
หมายเหตุ: ผู้ได้รับสิทธิจะต้องลงทะเบียนพร้อมเพย์ ด้วยหมายเลขประจำตัวประชาชนเพื่อรับสิทธิสวัสดิการ
ระยะเวลาโครงการ
1. เปิดรับลงทะเบียน (5 กันยายน – 31 ตุลาคม 2565)
รับลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์และหน่วยรับลงทะเบียน
2. ประกาศผลการลงทะเบียน (กันยายน 2565)
ประกาศผลการลงทะเบียนและผลการตรวจสอบการพิจารณาคุณสมบัติความสัมพันธ์กับกรมการปกครอง (ทุกวันศุกร์)
- ถูกต้อง – รอตรวจสอบคุณสมบัติ
- ไม่ถูกต้อง – แก้ไขข้อมูลที่หน่วยรับลงทะเบียน
3. ประกาศผลการพิจารณาคุณสมบัติ (มีนาคม 2566)
ตรวจสอบสถานะการลงทะเบียน บัตรประชารัฐ
- ผ่าน – รอยืนยันตัวตน
- ไม่ผ่าน – อุทธรณ์ผล
4. ยืนยันตัวตนสำหรับผู้ที่ผ่านคุณสมบัติ (มีนาคม 2566)
- ธนาคารกรุงไทย
- ธนาคารออมสิน
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
5. ใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ (1 เมษายน 2566)
ใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐผ่านบัตรประชาชน
‘คลัง’ พร้อมแล้ว ตรวจสอบสถานะการลงทะเบียน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566
28 กุมภาพันธ์ 2566 – นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงการคลังได้ส่งข้อมูลผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (โครงการฯ) ปี 2565 ที่มีสถานะการลงทะเบียนสมบูรณ์ให้หน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติที่เกี่ยวข้องตรวจสอบคุณสมบัตินั้น บัดนี้ การดำเนินการในขั้นตอนดังกล่าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว และคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม (คณะกรรมการฯ) ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบหลักในโครงการฯ ได้กำหนดวันประกาศผลการพิจารณาคุณสมบัติโครงการฯ ปี 2565 ในวันที่ 1 มีนาคม 2566 ซึ่งผู้ลงทะเบียนที่มีสถานะการลงทะเบียนสมบูรณ์สามารถตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติได้ 3 ช่องทาง ดังนี้
- ผู้ลงทะเบียนสามารถตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติด้วยตนเอง ผ่านทางเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th ได้ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ถึง 23.00 น. ของทุกวัน
- ผู้ลงทะเบียนสามารถตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ได้แก่
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
- ธนาคารออมสิน
- ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทยฯ)
- สำนักงานคลังจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ สังกัดกรมบัญชีกลาง
- ที่ว่าการอำเภอทั้ง 878 อำเภอทั่วประเทศ ภายใต้กระทรวงมหาดไทย
- สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร ทั้ง 50 เขต และ
- ศาลาว่าการเมืองพัทยา เมืองพัทยา
ทั้งนี้ ตามวันและเวลาทำการของแต่ละหน่วยงานสำหรับการตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ให้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของหน่วยงานรับลงทะเบียนแต่ละแห่ง
- โทรศัพท์สอบถามได้ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และ Call Center โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ วันจันทร์ – วันศุกร์ตามเวลาทำการของแต่ละหน่วยงาน
นายอาคมยังกล่าวเพิ่มเติมในรายละเอียด ดังนี้
- ผู้ลงทะเบียนที่ตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการฯ ปี 2565 แล้ว พบว่า เป็นผู้ที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการฯ ปี 2565 ต้องยืนยันตัวตน ณ ธนาคารกรุงไทยฯ ธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. โดยสามารถยืนยันตัวตนได้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป ทั้งนี้ จะต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนอเนกประสงค์ (Smart Card) เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนด้วย ณ ธนาคารดังกล่าวตามวันและเวลาทำการของแต่ละธนาคาร
- เมื่อยืนยันตัวตนเสร็จเรียบร้อยแล้วจะสามารถตรวจสอบสถานะการยืนยันตัวตนของตนเองผ่านทางเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th ในวันถัดไป หรือติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่หน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน หรือโทรศัพท์สอบถามได้ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
- ธ.ก.ส. และธนาคารออมสินจะให้บริการยืนยันตัวตนเป็นเวลา 180 วันนับจากวันที่ประกาศผลการพิจารณาคุณสมบัติ (วันที่ 1 มีนาคม – 27 สิงหาคม 2566) และธนาคารกรุงไทยฯ จะให้บริการยืนยันตัวตน โดยยังไม่มีกำหนดวันสิ้นสุดการให้บริการ สำหรับการยืนยันตัวตนในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ให้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแต่ละธนาคาร
- ผู้ลงทะเบียนที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติดำเนินการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับหมายเลขประจำตัวประชาชนเพื่อรับสิทธิสวัสดิการ โดยสามารถผูกบัญชีพร้อมเพย์กับธนาคารใดก็ได้ ทั้งนี้ การผูกบัญชีพร้อมเพย์ไว้ล่วงหน้า จะทำให้ผู้ได้รับสิทธิสะดวกในการรับสิทธิสวัสดิการหากกรณีที่ภาครัฐมีสวัสดิการที่จะโอนเข้าบัญชีในอนาคต
ทั้งนี้ หากพบว่าสถานะการยืนยันตัวตนสมบูรณ์ ผู้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติจึงจะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการผ่านบัตรประจำตัวประชาชนได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 ในกรณีที่ผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติที่ยืนยันตัวตนสำเร็จตั้งแต่วันที่ 1 – 26 มีนาคม 2566 และในกรณีผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติที่ยืนยันตัวตนหลังวันที่ 26 มีนาคม 2566 จะได้ใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐตามที่กระทรวงการคลังกำหนด สำหรับผู้ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐในปัจจุบันจะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐได้จนถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2566 เท่านั้น
ตรวจสอบสถานะการลงทะเบียน บัตรประชารัฐ แล้วไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณา สามารถอุทธรณ์ได้
สำหรับผู้ลงทะเบียนที่ตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการฯ ปี 2565 แล้ว พบว่า ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการฯ ปี 2565 ผู้ลงทะเบียนสามารถยื่นขออุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติได้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 1 พฤษภาคม 2566 ผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่
- ขออุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติด้วยตนเองผ่านทางเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th ได้ตั้งแต่เวลา 6.00 น. ถึง 23.00 น. ของทุกวัน
- ขออุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทยฯ ธ.ก.ส. สำนักงานคลังจังหวัดทุกจังหวัด ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร และศาลาว่าการเมืองพัทยา ตามวันและเวลาทำการของแต่ละหน่วยงาน โดยให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานรับลงทะเบียนเป็นผู้ดำเนินการยื่นอุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติ โดยผู้ไม่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติจะต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชนกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานรับลงทะเบียนก่อนดำเนินการยื่นอุทธรณ์
นายอาคมกล่าวเน้นย้ำว่า หลังจากผู้ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติดำเนินการยืนยันการขออุทธรณ์ตามขั้นตอนเรียบร้อยแล้ว จะต้องดำเนินการขอตรวจสอบและแก้ไขข้อมูลที่หน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติที่ผู้ลงทะเบียนไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาด้วยตนเอง หรือเป็นไปตามเงื่อนไขที่หน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติกำหนด เพื่อขอปรับปรุงหรือแก้ไขข้อมูลในกรณีที่ข้อมูลไม่ถูกต้องให้ถูกต้อง โดยจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 1 พฤษภาคม 2566
ช่องทางติดต่อสอบถามข้อมูล
ทั้งนี้ ผู้ลงทะเบียนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและรายละเอียดโครงการฯ ปี 2565 เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th หรือติดต่อศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โทร. 02-109-2345 ในเวลาทำการ 08.30 – 17.30 น.