ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) เปิดลงทะเบียน “สินเชื่อโควิด” รอบใหม่เพิ่มเติมตามมติ ครม. โดยใช้ชื่อโครงการ สินเชื่อสู้ภัย COVID-19 ปล่อยกู้วงเงินรายละ 10,000 บาท อัตราดอกเบี้ยต่ำ 0.35% ต่อเดือน ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ไม่ต้องจ่ายเงินต้นและดอกเบี้ยช่วง 6 เดือนแรก เน้นช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพอิสระและเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 โดย ครม. อนุมัติวงเงินปล่อยกู้ 2 หมื่นล้านบาท เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการดำรงชีวิตของประชาชนที่ได้รับผลกระทบเป็นการชั่วคราว
เราชนะเฟส 3 รับเงินเพิ่มเป็น 9,000 บาท ใช้ได้ถึง 30 มิ.ย. 2564
ลงทะเบียนไทยร่วมใจ ฉีดวัคซีนโควิดฟรี พื้นที่ กทม.
รายละเอียด สินเชื่อโควิด
วงเงินสินเชื่อ
ครม. อนุมัติวงเงินปล่อยกู้ สินเชื่อโควิด ทั้งสิ้น 20,000 ล้านบาท อนุมัติให้ธนาคารออมสิน 10,000 ล้านบาท และ ธกส. 10,000 ล้านบาท เพื่อปล่อยกู้วงเงินรายละไม่เกิน 10,000 บาท
ระยะเวลากู้ยืม
ระยะเวลากู้ต้องไม่เกิน 3 ปี
สิทธิประโยชน์ตามนโยบาย สินเชื่อโควิด
ผู้กู้จะได้รับสิทธิกู้ยืมเงินในอัตราดอกเบี้ยต่ำได้โดยไม่ต้องมีหลักประกัน และได้รับยกเว้นไม่ต้องชำระเงินต้นและดอกเบี้ย สำหรับ 6 งวดแรก
ผู้มีสิทธิขอ สินเชื่อสู้ภัย COVID-19
คุณสมบัติของผู้มีสิทธิขอ “สินเชื่อโควิด” มีดังนี้
- มีสัญชาติไทย อายุ 20 ปีขึ้นไป
- เป็นผู้ประกอบอาชีพอิสระ เกษตรกรรายย่อย หรือลูกจ้างในภาคเกษตร หรือผู้มีรายได้ประจำที่ไม่ใช่จากภาครัฐหรือรัฐวิสาหกิจ
- ได้รับผลกระทบจากโควิด-19
วิธีการลงทะเบียน สินเชื่อโควิด
ธนาคารออมสิน
ในระยะแรกของโครงการ สินเชื่อสู้ภัย COVID-19 ธนาคารออมสินจะเริ่มให้บริการแก่ลูกค้าธนาคารที่ใช้งาน แอปพลิเคชั่น MyMo อยู่แล้วก่อนวันที่ 1 พ.ค. 2564 จํานวนมากกว่า 9 ล้านคน เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของ COVID-19 จากการที่ประชาชนเข้ามาทำการที่สาขาเป็นจำนวนมาก
โดยธนาคารออมสินจะเริ่มให้บริการปล่อยสินเชื่อโควิดกับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบที่อยู่ในพื้นที่สีแดงเข้ม 6 จังหวัดก่อน ได้แก่
- กรุงเทพมหานคร
- นนทบุรี
- ปทุมธานี
- ชลบุรี
- สมุทรปราการ และ
- เชียงใหม่
โดยลูกค้าจะได้รับสิทธิกู้ยืมเงินได้ไม่เกิน 10,000 บาท โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 0.35% ต่อเดือน แต่ได้รับยกเว้นไม่ต้องชำระเงินต้นและดอกเบี้ยในช่วง 6 เดือนแรก
หลังจากนั้นในช่วงระยะที่สอง ธนาคารออมสินจะขยายให้บริการสินเชื่อโควิดแก่ลูกค้าในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป จากนั้นจะจึงจะให้บริการแก่ลูกค้ากลุ่มอื่นที่ไม่มีแอป MyMo ซึ่งโครงการนี้จะดำเนินไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 หรือจนกว่าจะปล่อยสินเชื่อจนครบจำนวนวงเงินของโครงการ ซึ่ง ครม. ได้อนุมัติวงเงินให้ธนาคารออมสินปล่อยสินเชื่อตามโครงการนี้เป็นเงิน 10,000 ล้านบาท
ผู้สนใจสอบถามได้ที่ ธนาคารออมสิน ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือโทรสายด่วน 1115 หรือ Facebook: GSB Society
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.)
ธกส. เปิดให้ลงทะเบียนเข้าโครงการ สินเชื่อสู้ภัย COVID-19 ให้กับทั้งลูกค้า ธกส. ปัจจุบัน และเกษตรกรหรือบุคคลในครอบครัวของเกษตรกร (คู่สมรส พ่อแม่ บุตรหลาน ลุง ป้า น้า อา) ที่ยังไม่เป็นลูกค้า ธกส. ที่อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์แต่ไม่เกิน 70 ปี และได้รับผลกระทบจาก COVID-19 โดยช่องทางการขอสินเชื่อจะใช้ผ่าน LINE: BAAC Family ของธนาคารโดยไม่ต้องไปติดต่อที่สาขา เมื่อลงทะเบียนเรียบร้อยแล้วให้รอการนัดหมายจากสาขาต่อไป
โดยลูกค้าจะได้รับสิทธิกู้ยืมเงินได้ไม่เกิน 10,000 บาท โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน และได้รับยกเว้นไม่ต้องชำระเงินต้นและดอกเบี้ยในช่วง 6 เดือนแรก
วิธีลงทะเบียนกรณีลูกค้าเงินกู้ ธกส. ปัจจุบัน
ลงทะเบียนสมัครเข้า โครงการสินเชื่อฉุกเฉินสำหรับผู้ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ตามขั้นตอนดังนี้
- เพิ่มเพื่อนใน LINE @baacfamily
- เลือกเมนู “COVID-19 ลงทะเบียนรับความช่วยเหลือจาก ธ.ก.ส.”
- กรอกเลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์มือถือของตนเองและข้อมูลบุคคลที่ติดต่อแทนได้ โดยจะให้กรอกซ้ำ 2 ครั้งเพื่อยืนยันความถูกต้อง
- บันทึกข้อมูลการขอสินเชื่อและงวดชำระ
- ตรวจสอบข้อมูลและยืนยันการลงทะเบียน โดยจะได้รับหมายเลขการลงทะเบียนทาง SMS
- รอนัดหมายจากธนาคารผ่านทาง SMS
วิธีลงทะเบียนกรณีไม่เคยเป็นลูกค้าเงินกู้ ธกส. มาก่อน
- เพิ่มเพื่อนใน LINE @baacfamily
- เลือกเมนู “COVID-19 ลงทะเบียนรับความช่วยเหลือจาก ธ.ก.ส.”
- กรอกเลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์มือถือของตนเอง
- บันทึกข้อมูลส่วนตัว
- ระบุข้อมูลการประกอบอาชีพปัจจุบัน
- บันทึกข้อมูลการขอสินเชื่อและงวดชำระ
- ตรวจสอบข้อมูลและยืนยันการลงทะเบียน โดยจะได้รับหมายเลขการลงทะเบียนทาง SMS
- รอนัดหมายจากธนาคารผ่านทาง SMS
ทั้งนี้ ครม. อนุมัติวงเงินให้ ธกส. ปล่อยสินเชื่อตามโครงการนี้เป็นเงิน 10,000 ล้านบาท ผู้สนใจสอบถามได้ที่ ธกส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ โทร. 02-555-0555