ตรวจสอบสิทธิมาตรา 40 ล่าสุด เช็คเงินเยียวยา ประกันสังคม ของผู้ประกันตน ม.40 ในพื้นที่สีแดงเข้ม (พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด) ทั้ง 29 จังหวัด ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมของรัฐ โดยจะได้รับการช่วยเหลือค่าครองชีพให้คนละ 5,000 บาท ซึ่งเป็นผู้ประกันตน ม.40 จำนวน 5,258,030 คน ที่เว็บไซต์ sso.go.th ของสำนักงานประกันสังคม
- สมัครประกันสังคมมาตรา 40 รับเงินเยียวยา 5,000 บาท
- ลงทะเบียนรับ QR Code เดินทางข้ามพื้นที่ covid-19.in.th ‘หยุดเชื้อเพื่อชาติ’
- ตรวจสอบรายชื่อ 77 จังหวัด พื้นที่ ‘ล็อกดาวน์’ ของ ศบค. (อัพเดตล่าสุด)
ประกันสังคมกำหนดวันจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ประกันตน มาตรา 40 คนละ 5,000 บาท ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือ พื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด ทั้งนี้ ผู้ประกันตน ม.40 สามารถตรวจสอบสถานะ เช็คเงินเยียวยามาตรา 40 (เช็คสิทธิการรับเงินเยียวยา 5,000 บาท) ด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th
ช่องทาง ตรวจสอบสิทธิมาตรา 40 ล่าสุด
- เว็บไซต์ประกันสังคม >> www.sso.go.th
วิธี ตรวจสอบสิทธิมาตรา 40 ล่าสุด
- ไปที่เว็บไซต์ประกันสังคม >> www.sso.go.th
- กรอกเลขบัตรประชาชน 13 หลัก
- กรอกรหัสให้ตรงกับรูปภาพ
- กด ‘ค้นหา’
- ระบบจะแจ้งผล “ได้รับสิทธิ” หรือ “ไม่ได้รับสิทธิ” ตามเงื่อนไขโครงการเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา 40 ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐในพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวด 29 จังหวัด ใน 9 ประเภทกิจการ
ตรวจสอบสิทธิมาตรา 40 แล้วไม่ได้สิทธิ ต้องทำอย่างไรต่อดี?
- กรณีที่หากเช็คแล้วไม่ได้สิทธิ ให้รอยื่นทบทวนสิทธิ์อีกครั้งหนึ่ง โดยสำนักงานประกันสังคมได้เปิดให้ผู้ประกันตน มาตรา 40 สอบถามผ่านสายด่วนประกันสังคม 1506 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ผู้จ่ายเงินสมทบก่อน 3 สิงหาคม 2564 รับโอนเงินเยียวยาตามลำดับเลขหน้าบัตรประชาชน
- เลขหน้าบัตรประชาชน เริ่มด้วยเลข 310 ถึง 390: โอนเงินให้วันที่ 25 สิงหาคม 2564
- เลขหน้าบัตรประชาชน เริ่มด้วยเลข 390 ถึง 896: โอนเงินให้วันที่ 26 สิงหาคม 2564
หมายเหตุ: สำหรับผู้ที่โอนไม่สำเร็จ สำนักงานประกันสังคมจะทำการโอนเงินรอบเก็บตกให้ทุกวันพฤหัสบดี
รอบเวลาการโอนเงินเยียวยาของแต่ละธนาคาร
- ธนาคารออมสิน โอนเวลา 1.00 น.
- ธนาคารกสิกรไทย โอนเวลา 1.35 น.
- ธนาคารกรุงไทย โอนเวลา 3.00 น.
- ธนาคารกรุงเทพ โอนเวลา 3.00 น.
- ธนาคารไทยพาณิชย์ โอนเวลา 4.00 น.
- ธกส. โอนเวลา 4.30 น.
- ธนาคารอื่นๆ โอนเงินภายในเวลา 5.00 น.
หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข เงินเยียวยาผู้ประกันตน ม.40
1. คุณสมบัติของกลุ่มเป้าหมายที่มีสิทธิได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท
- เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40
- มีสัญชาติไทย
- ไม่เป็นข้าราชการหรือผู้รับบำนาญของกรมบัญชีกลาง
- สถานะเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ในฐานทะเบียนประกันสังคมที่มีสถานะ A (Active) ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2564 (พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดชุดแรก 13 จังหวัด) หรือ ณ วันที่ 3 สิงหาคม 2564 (พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดเพิ่มเติม 16 จังหวัด)
- กรณีเป็นผู้สมัครเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ในฐานทะเบียนประกันสังคมที่มีสถานะรอชำระเงิน W (Wait) ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2564
2. ต้องอยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) 29 จังหวัด
ผู้ประกันตน มาตรา 39 และ มาตรา 40 ที่จะมีสิทธิรับเงินเยียวยาต้องอยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ซึ่งประกาศเป็นพื้นที่ ‘ล็อกดาวน์’ ได้แก่
- กรุงเทพมหานคร
- กาญจนบุรี
- ชลบุรี
- ฉะเชิงเทรา
- ตาก
- นครปฐม
- นครนายก
- นครราชสีมา
- นราธิวาส
- นนทบุรี
- ปทมุธานี
- ประจวบคีรีขันธ์
- ปราจีนบุรี
- ปัตตานี
- พระนครศรีอยุธยา
- เพชรบุรี
- เพชรบูรณ์
- ยะลา
- ระยอง
- ราชบุรี
- ลพบุรี
- สงขลา
- สิงห์บุรี
- สมุทรปราการ
- สมุทรสงคราม
- สมุทรสาคร
- สระบุรี
- สุพรรณบุรี
- อ่างทอง
หมายเหตุ: การเดินทางเข้า-ออกพื้นที่สีแดงเข้มต้องลงทะเบียนรับ QR Code เดินทางข้ามพื้นที่ covid-19.in.th ‘หยุดเชื้อเพื่อชาติ’ ด้วย
3. จ่าย เงินเยียวยาผู้ประกันตน ผ่านพร้อมเพย์
วิธีการจ่ายเงินเยียวยาให้ผู้ประกันตน ม.40 จะใช้วิธีโอนเงินให้ผู้ประกันตนผ่านบัญชีพร้อมเพย์ (PromptPay) ที่ผูกบัญชีกับเลขประจำตัวประชาชนแล้วเท่านั้น
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุม ครม. ได้มอบให้กระทรวงแรงงานเร่งตรวจสอบยืนยันตัวตนของกลุ่มเป้าหมายเพื่อไม่ให้เกิดการเยียวยาซ้ำซ้อน และเร่งให้โอนเงินเยียวยาผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และมาตรา 40 ที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดใน 10 จังหวัด ก่อนระยะเวลาที่กำหนด ภายในวันที่ 24 สิงหาคม 2564 เนื่องจากเป็นกลุ่มที่อยู่ในพื้นที่ที่สถานการณ์การระบาดของโควิดมีความรุนแรงและได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติตามข้อกำหนดฯ ของรัฐบาลก่อนพื้นที่อื่นๆ ทั้งนี้ รัฐบาลได้กำหนดกลุ่มเป้าหมาย ผู้ประกันตน ม.40 จำนวน 5,258,030 คน
ลดอัตราส่งเงินสมทบให้ผู้ประกันตน ม.40 เหลือ 60% ตั้งแต่ ส.ค. 2564 – ม.ค. 2565
พระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินสมทบประเภทของประโยชน์ทดแทน ตลอดจนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขแห่งสิทธิในการรับประโยชน์ทดแทนของบุคคลซึ่งสมัครเป็นผู้ประกันตน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2564 ได้ปรับลดอัตราการส่งเงินสมทบของผู้ประกันตน ม.40 ลงเหลือ 60% เป็นเวลา 6 เดือน ตั้งแต่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2564 ถึง 31 มกราคม พ.ศ. 2565 ทำให้ผู้ประกันตนมาตรา 40 ซึ่งเป็นผู้ประกอบอาชีพอิสระ ฟรีแลนซ์ ค้าขาย และสนใจประกันตนภาคสมัครใจ จะมีทางเลือกส่งเงินสมทบได้ 3 ทางเลือก
- ทางเลือกที่ 1 เลือกรับประโยชน์ทดแทน 3 กรณี: อัตราเงินสมทบเหลือเดือนละ 42 บาท (จากเดิม 70 บาท)
- คุ้มครองกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย
- คุ้มครองกรณีทุพพลภาพ
- คุ้มครองกรณีเสียชีวิต
- ทางเลือกที่ 2 เลือกรับประโยชน์ทดแทน 4 กรณี: อัตราเงินสมทบเหลือเดือนละ 60 บาท (จากเดิม 100 บาท)
- คุ้มครองกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย
- คุ้มครองกรณีทุพพลภาพ
- คุ้มครองกรณีเสียชีวิต
- คุ้มครองกรณีชราภาพ ได้รับเงินก้อนพร้อมดอกผล
- ทางเลือกที่ 3 เลือกรับประโยชน์ทดแทน 5 กรณี: อัตราเงินสมทบเหลือเดือนละ 180 บาท (จากเดิม 300 บาท)
- คุ้มครองกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย
- คุ้มครองกรณีทุพพลภาพ
- คุ้มครองกรณีเสียชีวิต
- คุ้มครองกรณีชราภาพ ได้รับเงินก้อนพร้อมดอกผล
- คุ้มครองกรณีสงเคราะห์บุตร ได้รับเงินรายเดือนตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 ขวบ
หมายเหตุ: ทางเลือกที่ 1 จะได้รับประโยชน์ทดแทนน้อยที่สุด ในขณะที่ทางเลือกที่ 3 จะได้รับประโยชน์ทดแทนมากที่สุด